แจ้งออกประกันสังคม ที่นายจ้างไม่ควรลืม!

นายจ้างเป็นบุคคลที่ต้องรับผิดชอบการแจ้งขึ้นทะเบียนประกันสังคมให้กับทางลูกจ้าง ถือว่าเป็นสิทธิที่มีประโยชน์ร่วมกันของทั้ง 2 ฝ่าย เพราะนอกจากบริษัทจะดูมีความมั่นคงมากขึ้น ยังทำให้ลูกจ้างได้รับสวัสดิการ ที่เป็นหลักประกันตลอดระยะเวลาของการทำงาน และเมื่อไหร่ที่มีลูกจ้างลาออก นายจ้างต้องเป็นผู้ “แจ้งออกประกันสังคม” ด้วยเช่นกัน จะได้ช่วยรักษาสิทธิของผู้ประกันตนเอาไว้

หากใครเป็นนายจ้างที่ไม่เคยแจ้งสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตนของลูกจ้าง โดยไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร วันนี้ นรินทร์ทอง ขอแนะนำวิธีการแจ้งออกประกันสังคมที่คุณควรรู้ เพื่อให้เตรียมตัวได้อย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็น เอกสารที่ต้องแจ้ง, ระยะเวลาในการยื่น และสามารถยื่นเอกสารที่ไหนได้บ้าง

 

ประกันสังคมมีทั้งหมดกี่ประเภท?

แจ้งออกประกันสังคม

หลายคนมักเข้าใจว่า ‘การเป็นผู้ประกันตนจะได้ก็ต่อเมื่อทำงานบริษัทเท่านั้น’ แต่ความจริงแล้วบุคคลที่ไม่ได้ทำงานบริษัทก็สามารถทำประกันสังคมได้เช่นกัน เพราะการเป็นผู้ประกันตนจะมี 2 ประเภทหลัก คือ

ภาคบังคับ เป็นบุคคลทั่วไปที่ได้รับการเป็นผู้ประกันตน โดยที่ไม่ต้องการทำการสมัครเอง

  • มาตรา 33 ผู้ประกันตนเป็นพนักงานบริษัท ที่มีสถานะเป็นลูกจ้างให้แก่บริษัทเอกชนทั่วไป โดยการแจ้งขึ้นทะเบียนกับทางสำนักงานประกันสังคม จะเป็นหน้าที่ของนายจ้างที่ต้องทำการดำเนินเรื่อง เพราะการส่งเงินเข้ากองทุนจะมีส่วนของนายจ้างที่ช่วยสมทบ

ภาคสมัครใจ เป็นบุคคลทั่วไปที่อยากเป็นผู้ประกันตน และจะต้องทำการสมัครด้วยตนเอง

  • มาตรา 39 ผู้ประกันตนเคยเป็นพนักงานบริษัทที่มีมาตรา 33 มาก่อน และต้องการรักษาสิทธิเพื่อไม่ให้ตัวเองหลุดจากประกันสังคม ก็สามารถทำการยื่นสมัครมาตรา 39 เองได้เลย
  • มาตรา 40 ผู้ประกันตนไม่เคยได้รับมาตรา 33 และ มาตรา 39 ถือว่าเป็นบุคคลที่ประกอบอาชีพอิสระ สามารถทำการสมัครมาตรา 40 ได้ โดยอายุจะต้องไม่ต่ำกว่า 15 ปี และสูงสุดไม่เกิน 60 ปี

กองทุนประกันสังคมของแต่ละมาตรา จะมีอัตราในการเรียกเก็บเงินในจำนวนที่ไม่เท่ากัน เช่น มาตรา 33 จะเรียกเก็บมากที่สุด รองลงมาเป็นมาตรา 39 และมาตรา 40 จะเสียเงินน้อย โดยสิทธิประโยชน์ที่ได้รับในเรื่องของเงินสมทบ ความคุ้มครองก็แตกต่างกันออกไปเช่นกัน

 

วิธีการ “แจ้งออกประกันสังคม” ให้กับลูกจ้าง

แจ้งออกประกันสังคม

การแจ้งออกประกันสังคมให้กับลูกจ้างจัดว่าอยู่ในกรณีของ ‘มาตรา 33’ เพราะนายจ้างมีหน้าที่แจ้งเข้า – แจ้งออกให้แก่ลูกจ้าง โดยวิธีในการแจ้งออกจะมีอยู่ 2 วิธี คือ

แจ้งออกที่สำนักงานประกันสังคม

  • นายจ้างจะต้องเตรียม ‘แบบแจ้งการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน’ หรือ เอกสาร สปส.6-09
  • ทำการกรอกชื่อบริษัท, สถานที่ตั้ง และรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถานประกอบการ
  • กรอกข้อมูลของลูกจ้างหรือผู้ประกันตน ที่ให้ระบุเลขบัตรประชาชน, ชื่อ – นามสกุล, วันที่สิ้นสุด และสาเหตุที่สิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตน
  • ในส่วนของสาเหตุการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน นายจ้างจะต้องระบุให้ชัดเจน เพราะผู้ประกันตนจะได้สามารถขอเงินชดเชยได้ในกรณีที่ลาออกหรือโดนเลิกจ้าง
  • หลังจากที่นายจ้างได้กรอกรายละเอียดทั้งหมดแล้ว จะต้องเซ็นลงชื่อพร้อมกับประทับตราบริษัทให้เอกสารสมบูรณ์
  • หากทำการกรอกรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว สามารถทำการยื่นเอกสารที่สำนักงานประกันสังคมในพื้นที่ได้เลย

แจ้งออกผ่านทางเว็บไซต์

  • เข้าไปที่เว็บไซต์ ‘สำนักงานประกันสังคม หรือ www.sso.go.th และกดไปที่ ‘สถานประกอบการ’ เนื่องจากเราเป็นผู้ประกอบการหรือเจ้าของบริษัท
  • ทำการเข้าสู่ระบบที่มุมขวาบน หลังจากนั้นให้กดไปที่ ‘ทะเบียนผู้ประกันตน’ แล้วเลือก ‘แจ้งสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตน (สปส.6-09)’
  • การกรอกข้อมูลจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ขั้นตอน โดยขั้นตอนที่ 1 ‘บันทึกข้อมูล’ เราจึงต้องทำการระบุจำนวนของลูกจ้างที่ลาออกก่อน หลังจากนั้นให้ใส่หมายเลขบัตรประชาชน, วันที่ลาออก และระบุสาเหตุ
  • ขั้นตอนที่ 2 ‘ตรวจสอบข้อมูล’ จะเป็นการทวนอีกครั้งว่าข้อมูลที่คุณใส่มานั้นถูกต้อง เพื่อไปสู่ขั้นตอนที่ 3 ‘ยืนยันการบันทึกข้อมูล’ เพียงเท่านี้คุณก็ทำงานยื่นแจ้งลาออกเรียบร้อยแล้ว โดยที่ไม่ต้องไปสำนักงานประกันสังคม

 

หากนายจ้างไม่ทำการแจ้งออกจะมีความผิดอย่างไร?

การแจ้งออกประกันสังคมเป็นหน้าที่ของนายจ้างที่ต้องรับผิดชอบ จึงทำให้ลูกจ้างไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากนายจ้างจะแจ้งสิ้นสุดการทำงานเท่านั้น และในกรณีที่นายจ้างไม่ดำเนินเรื่อง “แจ้งออกประกันสังคม” ของลูกจ้างหรือแจ้งออกล่าช้า ไม่เกินวันที่ 15 ของเดือนหน้า นายจ้างจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ. 2533 ที่ได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน, ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

การที่ลูกจ้างลาออกแล้วนายจ้างยังไม่ได้ทำเรื่องแจ้งออกให้ มีโอกาสที่ลูกจ้างจะได้รับความเดือดร้อน จากการยื่นเอกสารขอเงินชดเชยว่างงานแล้วไม่ผ่าน เพราะข้อมูลในระบบยังมีสถานะที่เป็นพนักงานบริษัทอยู่ ซึ่งผู้ประกันตนจะสามารถลงทะเบียนว่างงานได้ภายในระยะเวลา 30 วัน

 

ทำไมนายจ้างถึงต้องทำการแจ้งออกประกันสังคม?

นายจ้างผู้ประกอบการจะต้องทำการแจ้งออกประกันสังคมให้กับทางลูกจ้าง เพราะถือว่าเป็นสิทธิที่ผู้ประกันตนควรจะได้รับในเรื่องของการลงทะเบียนว่างงาน ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ลาออกหรือหมดสัญญาจ้าง กรณีที่ถูกเลิกจ้าง เพื่อช่วยให้ผู้ประกันตนได้รับเงินชดเชย ไม่ทำให้ได้รับผลกระทบทางด้านการเงิน และถ้าหากนายจ้างไม่ทำการแจ้งออกให้ นอกจากจะเป็นปัญหากับลูกจ้างแล้ว ยังมีเรื่องของกฎหมายมาเกี่ยวข้อง ที่ทำให้นายจ้างมีสิทธิได้รับโทษทั้งจำทั้งปรับอีกด้วย

 

ให้การยื่นแจ้งออกประกันสังคมเป็นเรื่องง่ายกับ นรินทร์ทอง

บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชี และภาษี รวมไปถึงการจดทะเบียนนิติบุคคล ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบ บริษัท หรือห้างหุ้นส่วน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี ทำให้มั่นใจได้เลยว่าหากเลือกใช้บริการกับเรา จะทำให้ธุรกิจของคุณพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดดแน่นอน โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น

  • บริการส่งภาษีอากร
  • บริการจดทะเบียนบริษัท
  • บริการทำเงินเดือนพนักงาน
  • บริการรับทำบัญชี

 

นรินทร์ทองอยากให้ธุรกิจของคุณพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด

 

ใครมีข้อสงสัย ต้องการคำปรึกษา นรินทร์ทอง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่…

Facebook : NarinthongOfficial

E-mail : narinthong.ac@gmail.com

Line : @Narinthong

Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ และคุกกี้ในส่วนการตลาด

    คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ จะช่วยให้เว็บไซต์เข้าใจรูปแบบการใช้งานของผู้เข้าชมและจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการใช้งานของผู้ใช้งาน และคุกกี้ในส่วนการตลาด ใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อแสดงโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายและเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการโฆษณาสำหรับผู้เผยแพร่และผู้โฆษณาสำหรับบุคคลที่สาม

บันทึกการตั้งค่า