จดเลิกบริษัท

จดเลิกบริษัท ใช้เอกสารอะไรบ้าง!

ผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เมื่อถึงวันที่กิจการต้องปิดตัวลง ไม่ว่าจะเพราะล้มละลาย ผลประกอบการขาดทุน ผู้ถือหุ้นมีมติเลิก หรือแม้กระทั่งคำสั่งศาล สิ่งที่ต้องทำคือการ จดเลิกบริษัท ไม่ใช่แค่หยุดกิจการเฉย ๆ เพราะหากไม่แจ้งตามกฎหมาย อาจถูกเรียกเก็บภาษี ค่าธรรมเนียมรายปี หรือค่าปรับย้อนหลังได้

เพื่อปิดกิจการอย่างสมบูรณ์ วันนี้ นรินทร์ทอง จะมาอธิบายให้เข้าใจว่า ขั้นตอนการจดเลิกบริษัทต้องทำอย่างไร และต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง

ทำความเข้าใจภาพรวมการจดเลิกบริษัท

ทำความเข้าใจภาพรวมการจดเลิกบริษัท

ก่อนที่จะเจาะลึกเรื่องเอกสารและขั้นตอนต่าง ๆ ผู้ประกอบการควรทำความเข้าใจ ภาพรวมของกระบวนการจดเลิกบริษัท ก่อน เพื่อให้เห็นลำดับขั้นตอนหลักและเข้าใจหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้เกี่ยวข้อง

  1. ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อลงมติเลิกบริษัท
    • ผู้ถือหุ้นต้องมีมติพิเศษไม่น้อยกว่า ¾ ของจำนวนหุ้นที่เข้าประชุม
    • มีการประกาศแจ้งเลิกกิจการในหนังสือพิมพ์
  2. แต่งตั้งผู้ชำระบัญชี (Liquidator)
    • ผู้ชำระบัญชีทำหน้าที่เคลียร์ทรัพย์สินและหนี้สินของบริษัท
    • แจ้งแต่งตั้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
  3. จัดทำงบการเงินวันเลิกกิจการ
    • ต้องมีผู้สอบบัญชีรับรอง
    • ยื่นงบต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมสรรพากร
  4. กระบวนการชำระบัญชี
    • จัดการทรัพย์สินและหนี้สินของบริษัท
    • แจกจ่ายส่วนที่เหลือให้ผู้ถือหุ้นตามสัดส่วน
  5. ยื่นจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี
    • ยื่นเอกสารปิดบริษัทต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
    • ได้หนังสือรับรองการเลิกบริษัทและสิ้นสภาพอย่างสมบูรณ์

 

ขั้นตอนการจดเลิกบริษัท พร้อมเอกสารที่ต้องใช้

ขั้นที่ 1: นัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อเลิกบริษัท

จดเลิกบริษัท ก่อนเลิกบริษัท ผู้ถือหุ้นต้องมีมติอนุมัติการเลิกกิจการ มติจะต้องได้เสียงไม่น้อยกว่า ¾ ของจำนวนหุ้นที่เข้าประชุม เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย การนัดประชุมจึงต้องส่งหนังสือล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วัน และประกาศในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น 1 ครั้ง เพื่อแจ้งเจ้าหนี้และบุคคลที่เกี่ยวข้อง

เอกสารที่ใช้และเหตุผล:

  • หนังสือนัดประชุมผู้ถือหุ้น ใช้เชิญผู้ถือหุ้นและเป็นหลักฐานการนัดหมายล่วงหน้า
  • รายงานการประชุม บันทึกมติเลิกบริษัท และแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีเพื่อดำเนินการต่อ 

ขั้นที่ 2: ยื่นจดทะเบียนเลิกบริษัทต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD)

ขั้นที่ 2: ยื่นจดทะเบียนเลิกบริษัทต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) หลังจากประชุมผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นหรือผู้ชำระบัญชีต้องยื่นคำขอจดทะเบียนเลิกบริษัทภายใน 14 วัน เพื่อให้กิจการอยู่ในสถานะถูกต้องตามกฎหมาย ต้องประกาศในหนังสือพิมพ์และแจ้งเจ้าหนี้ (ถ้ามี)

เอกสารที่ใช้และเหตุผล:

  • แบบ ลช.1 : คำขอจดทะเบียนเลิก – ใช้ยื่นต่อ DBD เพื่อเริ่มกระบวนการจดเลิก
  • แบบ ลช.2 : รายการจดทะเบียนเลิก – แสดงรายการผู้ถือหุ้นและกรรมการที่เกี่ยวข้อง
  • หนังสือรับรองนิติบุคคล – ยืนยันสถานะและข้อมูลบริษัท
  • รายงานการประชุมผู้ถือหุ้น – ใช้ยืนยันว่ามีมติเลิกบริษัทจริง
  • สำเนาคำสั่งศาล – ในกรณีเลิกตามคำสั่งศาล
  • หนังสือแต่งตั้งผู้ชำระบัญชี – ระบุผู้มีอำนาจในการดำเนินการชำระบัญชี

ขั้นที่ 3: การชำระบัญชี

ขั้นที่ 3: การชำระบัญชี การชำระบัญชีเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อเคลียร์ ทรัพย์สินและหนี้สินของบริษัท ผู้ชำระบัญชีต้องจัดทำงบการเงินวันเลิกบริษัท และดำเนินการเรียกเก็บหนี้ จ่ายหนี้ และแจกจ่ายเงินที่เหลือให้ผู้ถือหุ้น

ขั้นตอนสำคัญ:

  1. ทำงบการเงินวันเลิกบริษัท และให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบความถูกต้อง
  2. เรียกประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติงบการเงิน
  3. เคลียร์ทรัพย์สินและหนี้สิน (เรียกเก็บหนี้, ชำระหนี้, จ่ายคืนทุนผู้ถือหุ้น)
  4. ยื่นรายงานการชำระบัญชีต่อ DBD 

เอกสารที่ใช้:

  • งบการเงินปิดเลิกกิจการ – แสดงผลรวมทรัพย์สิน หนี้สิน และทุนของบริษัท ณ วันเลิก
  • รายงานการประชุมอนุมัติงบการเงิน – ใช้ยืนยันว่าผู้ถือหุ้นเห็นชอบงบและการชำระบัญชี
  • รายงานการชำระบัญชี – สรุปการดำเนินการเคลียร์ทรัพย์สินและหนี้สิน
  • สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านผู้ชำระบัญชี – ยืนยันตัวตนและสิทธิ์ดำเนินการ 

ขั้นที่ 4: ยื่นจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี

ขั้นที่ 4: ยื่นจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี

เมื่อผู้ถือหุ้นอนุมัติรายงานการชำระบัญชี ผู้ชำระบัญชีต้องยื่นเอกสารต่อ DBD ภายใน 14 วัน หลังจากนั้น DBD จะออกหนังสือรับรองการเสร็จชำระบัญชี → บริษัทจะสิ้นสภาพโดยสมบูรณ์

 

เอกสารที่ใช้:

  • คำขอจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี – ฟอร์มหลักสำหรับยื่นต่อ DBD
  • รายงานสรุปการชำระบัญชี แสดงขั้นตอนการปิดกิจการอย่างครบถ้วน
  • หนังสือรับรองการเลิกบริษัท – เอกสารยืนยันว่าบริษัทสิ้นสภาพตามกฎหมาย 

ภาษีและประกันสังคมที่ต้องเคลียร์

ภาษีและประกันสังคมที่ต้องเคลียร์ แม้บริษัทเลิกแล้ว แต่ต้องส่งภาษีและแจ้งประกันสังคมให้ครบถ้วน เพื่อป้องกันการถูกเรียกเก็บย้อนหลัง

ภาษีที่ต้องชำระสำหรับปิดกิจการ:

  • ภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50) + งบการเงินวันเลิก – ใช้คำนวณภาษีเงินได้ที่ค้างจ่าย
  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด.3 และ ภ.ง.ด.53) – รายงานการหักภาษีจากพนักงานหรือผู้รับบริการ
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) – ยื่นต่อเนื่องจนกว่าจะได้รับหนังสือขีดชื่อเลขประจำตัวผู้เสียภาษี
  • ภาษีธุรกิจเฉพาะ (ภธ.40) – สำหรับธุรกิจที่มีบัญชีดอกเบี้ยหรือสินทรัพย์เฉพาะ
  • แบบแจ้งเลิกกิจการประกันสังคม (สปส.6-15) – แจ้งปิดกิจการต่อสำนักงานประกันสังคม

 

สรุป 

การเลิกบริษัทไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีทั้ง ขั้นตอนทางกฎหมาย  เอกสารหลายชนิด  ภาษีที่ต้องเคลียร์ หากคุณไม่มั่นใจว่าจะดำเนินการถูกต้องหรือไม่ การใช้ผู้เชี่ยวชาญมาดูแลจะช่วยให้หมดกังวล นรินทร์ทอง เป็นที่ปรึกษาด้านการทำบัญชี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…

Facebook : NarinthongOfficial

E-mail : narinthong.ac@gmail.com

Line : @Narinthong

Tel : 081-627-6872 02-404-2339

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ และคุกกี้ในส่วนการตลาด

    คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ จะช่วยให้เว็บไซต์เข้าใจรูปแบบการใช้งานของผู้เข้าชมและจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการใช้งานของผู้ใช้งาน และคุกกี้ในส่วนการตลาด ใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อแสดงโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายและเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการโฆษณาสำหรับผู้เผยแพร่และผู้โฆษณาสำหรับบุคคลที่สาม

บันทึกการตั้งค่า