เปิดร้านนวดต้องเสียภาษีอะไรบ้าง

เปิดร้านนวดต้องเสียภาษีอะไรบ้าง ที่คุณควรรู้!

การเปิดร้านนวดแผนไทยในยุคนี้ถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่น่าสนใจ เพราะคนเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น แต่หลายคนอาจยังไม่แน่ใจว่า ถ้าอยากเปิดร้านให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะในรูปแบบบริษัท ต้องเตรียมตัวเรื่องภาษี บทความนี้จะพาไปดูว่า เปิดร้านนวดต้องเสียภาษีอะไรบ้าง ที่คุณต้องรู้ก่อนเริ่มต้นค่ะ

เปิดร้านนวดในรูปแบบนิติบุคคล ต้องเสียภาษีอะไรบ้าง?

1. ภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี (แบบ ภ.ง.ด.51)

เปิดร้านนวดต้องเสียภาษีอะไร

นอกจากการยื่นภาษีสิ้นปี บริษัทที่ดำเนินธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคลยังมีหน้าที่ต้องยื่น ภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี (ภ.ง.ด.51) ด้วย เพื่อชำระภาษีล่วงหน้าตามรายได้จริงในช่วงครึ่งปีแรก

  • ต้องยื่นภาษี ภายในเดือนสิงหาคมของทุกปี
  • คำนวณจาก 50% ของกำไรสุทธิในครึ่งปีแรก
  • หากไม่ยื่นภายในกำหนด จะถูกเรียกเก็บ เบี้ยปรับและเงินเพิ่ม ตามที่กฎหมายกำหนด

 การเตรียมบัญชีให้เป็นระบบตั้งแต่ต้นปี จะช่วยให้การคำนวณภาษีครึ่งปีเป็นไปอย่างถูกต้อง ลดความเสี่ยงต่อการเสียค่าปรับ 

ตัวอย่างและวิธีการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี (ภ.ง.ด.51)

  • บริษัทเปิดร้านนวดแผนไทย
  • รายได้ในช่วง ครึ่งปีแรก (มกราคม–มิถุนายน) รวมทั้งหมด: 1,200,000 บาท
  • ค่าใช้จ่ายที่หักได้ในครึ่งปีแรก: 800,000 บาท
  • กำไรสุทธิครึ่งปี = 1,200,000 – 800,000 = 400,000 บาท

วิธีคำนวณ:

  1. คำนวณ 50% ของกำไรสุทธิครึ่งปีแรก
    → 400,000 × 50% = 200,000 บาท
  2. นำกำไร 200,000 บาท ไปคำนวณภาษี ตามอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล
    • เนื่องจาก 200,000 บาท ไม่เกิน 300,000 บาทยกเว้นภาษี
      (บริษัทไม่ต้องชำระภาษีครึ่งปี แต่ยังคงต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.51)

 

*หากบริษัทไม่ยื่นแบบภ.ง.ด.51 ภายในเดือน สิงหาคม จะมี ค่าปรับและเงินเพิ่ม ตามที่กฎหมายกำหนด*

 

2. ภาษีเงินได้นิติบุคคล (แบบ ภ.ง.ด.50)

เปิดร้านนวดต้องเสียภาษีอะไรบ้าง

ภาษีเงินได้นิติบุคคลถือเป็นภาษีหลักที่บริษัทต้องชำระ โดยคำนวณจาก กำไรสุทธิหลังหักค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเช่าร้าน ค่าจ้างพนักงาน ค่าวัสดุนวด รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ

  • ยื่นปีละ 1 ครั้ง ตามรอบปีบัญชีของบริษัท
  • อัตราภาษีเป็นขั้นบันได ดังนี้
    • กำไรไม่เกิน 300,000 บาท: ยกเว้นภาษี
    • กำไรระหว่าง 300,001 – 3,000,000 บาท: เสียภาษี 15%
    • กำไรเกิน 3,000,000 บาท: เสียภาษี 20%

 บริษัทควรจัดทำ บัญชีรายรับรายจ่าย อย่างถูกต้อง และยื่น งบการเงินประจำปี ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ทุกปี พร้อมทั้งเก็บหลักฐานการเสียภาษีให้ครบถ้วน เพื่อให้สามารถดำเนินกิจการได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเสียภาษีในอัตราที่เหมาะสม

ตัวอย่างและวิธีการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50)

  • เปิดร้านนวดรายได้รวมทั้งปี: 5,500,000 บาท
  • ค่าใช้จ่ายรวมทั้งปี: 2,000,000 บาท
  • กำไรสุทธิ = 5,500,000 – 2,000,000 = 3,500,000 บาท 

ขั้นตอนการคำนวณ:

อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลแบบขั้นบันได คือ:

ช่วงกำไรสุทธิ อัตราภาษี จำนวนภาษีที่ต้องจ่าย
0 – 300,000 บาท ยกเว้นภาษี 0 บาท
300,001 – 3,000,000 บาท 15% (3,000,000 – 300,000) × 15% = 405,000 บาท
มากกว่า 3,000,000 บาท 20% (3,500,000 – 3,000,000) × 20% = 100,000 บาท

รวมภาษีที่ต้องจ่ายทั้งหมด:

405,000 + 100,000 = 505,000 บาท

 

หากบริษัทมีกำไรสุทธิ 3.5 ล้านบาทในรอบปีบัญชี บริษัทต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลรวม 505,000 บาท โดยต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 พร้อมงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) และกรมสรรพากรภายใน 150 วันนับจากวันสิ้นรอบบัญชี

 

3. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

เปิดร้านนวดต้องเสียภาษีอะไรบ้าง ที่คุณควรรู้!

หาก ร้านนวดแผนไทยจดทะเบียนในรูปแบบบริษัท และมียอดรายได้รวมเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี จะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.20) กับกรมสรรพากร

  • หลังจด VAT แล้ว ร้านต้อง เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากลูกค้าในอัตรา 7% จากค่าบริการ เช่น ค่านวดไทย ค่านวดเท้า ฯลฯ
  • ต้องยื่นแบบ ภ.พ.30 ทุกเดือน
  • ร้านสามารถนำ ภาษีซื้อ เช่น VAT จากการซื้อเตียงนวด น้ำมันนวด อุปกรณ์ หรือการอบรมพนักงาน มาหักกับ ภาษีขาย ได้

ตัวอย่าง:
ลูกค้าใช้บริการนวดแผนไทย 1,000 บาท → ร้านต้องคิด VAT เพิ่ม 70 บาท รวมเป็น 1,070 บาท และนำ VAT ไปยื่นภาษีทุกเดือน

4. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย

เปิดร้านนวดต้องเสียภาษีอะไรบ้าง ที่คุณควรรู้!

หากร้านนวดมีการ จ้างครูฝึกอบรมมาสอนนวด, จ้างฟรีแลนซ์ทำเว็บไซต์, หรือ เช่าพื้นที่ร้าน ร้านจะต้อง หักภาษี ณ ที่จ่าย จากค่าจ้างก่อนจ่ายจริง แล้วนำส่งกรมสรรพากร

  • จ่ายให้บุคคลธรรมดา เช่น ครูฝึกสอน → ยื่นแบบ ภ.ง.ด.3 
  • จ่ายให้บริษัท หรือห้างร้าน → ยื่นแบบ ภ.ง.ด.53 
  • จ่ายเงินเดือนพนักงาน → ยื่นแบบ ภ.ง.ด.1 

 ต้องยื่นภาษีเหล่านี้ ทุกเดือน ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป (หรือวันที่ 15 หากยื่นออนไลน์)

 

5. ภาษีป้าย (กรณีมีป้ายหน้าร้าน)

หาก ร้านนวดมีการติดตั้งป้ายหน้าร้าน เช่น ป้ายชื่อ “ร้านนวดเพื่อสุขภาพ” หรือป้ายโลโก้บนหน้าร้าน หรือแม้แต่ป้ายโฆษณาโปรโมชั่น ถือว่าต้องเสีย ภาษีป้าย

  • ยื่นแบบ ภ.ป.1 ต่อสำนักงานเขตหรือเทศบาลที่ร้านตั้งอยู่
  • ต้องยื่น ภายในเดือนมีนาคมของทุกปี
  • อัตราภาษีขึ้นอยู่กับขนาดของป้าย ประเภทตัวอักษร และการใช้แสงไฟ

 แนะนำให้ถ่ายรูปป้ายและเก็บเอกสารยื่นภาษีไว้ เพื่อใช้ในการต่อภาษีหรือตรวจสอบในอนาคตสามารถอ่านนเพิ่มเติมได้ที่ ติดป้ายต้องเสียภาษีไหม

 

สรุป

หากคุณกำลังวางแผน เปิดร้านนวดแผนไทย ในรูปแบบ นิติบุคคล สิ่งสำคัญคือการเข้าใจเรื่อง ภาษีร้านนวด ทั้งภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีครึ่งปี (ภ.ง.ด.51) ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภาษีหัก ณ ที่จ่าย และภาษีป้าย เพื่อให้การดำเนินธุรกิจถูกต้องตามกฎหมาย ลดความเสี่ยงการเสียค่าปรับ และวางแผนภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ นรินทร์ทอง สำนักงานบัญชีที่เข้าใจธุรกิจทุกรูปแบบ และพร้อมเดินเคียงข้างคุณทุกขั้นตอน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…

Facebook : NarinthongOfficial

E-mail : narinthong.ac@gmail.com

Line : @Narinthong

Tel : 081-627-6872 02-404-2339

 

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ และคุกกี้ในส่วนการตลาด

    คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ จะช่วยให้เว็บไซต์เข้าใจรูปแบบการใช้งานของผู้เข้าชมและจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการใช้งานของผู้ใช้งาน และคุกกี้ในส่วนการตลาด ใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อแสดงโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายและเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการโฆษณาสำหรับผู้เผยแพร่และผู้โฆษณาสำหรับบุคคลที่สาม

บันทึกการตั้งค่า