ยูทูปเบอร์เสียภาษียังไง

ิอินฟลู ยูทูปเบอร์เสียภาษียังไง? ก่อนเจอค่าปรับ!

ในยุคที่ใครๆ ก็สามารถเป็น ยูทูปเบอร์ หรือ อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ได้ง่ายขึ้น การมีรายได้จากโฆษณา สปอนเซอร์ หรือยอดวิวใน YouTube ก็กลายเป็นเรื่องปกติ แต่หลายคนยังสงสัยว่า ยูทูปเบอร์เสียภาษียังไง? ต้องยื่นแบบไหน? เสียมากน้อยแค่ไหน? ถ้าไม่ยื่นจะมีปัญหาอะไร? บทความนี้จะพาไปคลายข้อสงสัย พร้อมวิธีรับมือภาษีอย่างถูกต้อง

ยูทูปเบอร์เสียภาษียังไง ถือว่าเป็นผู้มีรายได้ที่ต้องเสียภาษีไหม?

ยูทูปเบอร์เสียภาษียังไง

ยูทูปเบอร์ถือเป็น ผู้มีรายได้จากการประกอบอาชีพอิสระ ต้องเสียภาษีตามประเภทเงินได้

มาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร โดยรายได้จากยูทูป ไม่ว่าจะเป็น

  • ค่าโฆษณาจาก YouTube (AdSense)
  • รายได้จากสปอนเซอร์หรือรีวิวสินค้า
  • ค่าคลิกหรือยอดวิวจากคลิปวิดีโอ
  • รายได้จากการสตรีมเกมหรือขายสินค้าผ่านช่อง

มาตรา 40(2) แห่งประมวลรัษฎากร รายได้จากการรับจ้างแบบมีการตกลงค่าตอบแทน เช่น

  • ค่าจ้างออกงานอีเวนต์
  • ค่าจ้างรีวิวสินค้าจากแบรนด์
  • ค่าจ้างโปรโมตสินค้า / บริการ ผ่านคลิปวิดีโอ
  • ค่าจ้างพูดในงานสัมมนา

ทั้งหมดถือเป็นรายได้ที่ต้องเสียภาษี และควรบันทึกไว้ในระบบบัญชีอย่างถูกต้อง หากมีรายได้สม่ำเสมอควรพิจารณาจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล

ยูทูปเบอร์ต้องเสียภาษีอะไรบ้าง?

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90, 94)

ยูทูปเบอร์เสียภาษียังไง

หากคุณเป็น Youtuber ที่มีรายได้จากการทำคลิปบน YouTube ไม่ว่าจะจาก AdSense, สปอนเซอร์ หรือการขายสินค้าผ่านช่องของตัวเอง และยัง ม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล (บริษัท) คุณมีหน้าที่ต้องยื่น ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปีละ 2 ครั้ง ตามที่กรมสรรพากรกำหนด โดยใช้แบบฟอร์ม 2 แบบคือ:

  • กลางปี (ภ.ง.ด. 94): รายได้ ม.ค.–มิ.ย. ยื่นภายใน ก.ย.
  • ปลายปี (ภ.ง.ด. 90): รายได้ ม.ค.–ธ.ค. ยื่นภายใน มี.ค. ปีถัดไป

วิธีคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับ Youtuber

ยูทูปเบอร์เสียภาษียังไง?

การมีรายได้จาก YouTube ไม่ว่าจะมาจากโฆษณา , สปอนเซอร์, ค่าจ้างทำคลิป หรือรายได้จากการสตรีม ล้วนถือเป็นรายได้ที่ต้องเสียภาษีทั้งสิ้น ซึ่ง Youtuber ทุกคนควรเข้าใจขั้นตอนและวิธีคำนวณภาษี เพื่อวางแผนรายได้อย่างมืออาชีพ

ขั้นตอนที่ 1: รวมรายได้

เริ่มจากรวม รายได้ทั้งหมด ที่ได้รับจาก YouTube และแหล่งอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น

  • รายได้จาก AdSense (โฆษณา YouTube)
  • รายได้จากรีวิวสินค้า
  • รายได้จากยอดวิว / การสตรีม
  • รายได้จากการทำวิดีโอให้แบรนด์ต่างๆ

หากยื่น กลางปี (ภ.ง.ด.94) ให้รวมเฉพาะช่วงเดือนมกราคม – มิถุนายน
หากยื่น ปลายปี (ภ.ง.ด.90) ให้รวมรายได้ทั้งปี มกราคม – ธันวาคม

ขั้นตอนที่ 2: หักค่าใช้จ่าย

สามารถเลือกหักค่าใช้จ่ายได้ 2 วิธี:

  • แบบเหมา: หักได้ 60% ของรายได้
    (เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีหลักฐานค่าใช้จ่ายครบถ้วน)
  • แบบตามจริง: หักตามใบเสร็จ เช่น
    • ค่ากล้องและอุปกรณ์ถ่ายทำ
    • ค่าไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ต
    • ค่าเดินทาง ค่าเช่าสตูดิโอ
    • ค่าตัดต่อหรือทีมงาน
      (ต้องมีเอกสารหลักฐานที่ชัดเจน)

ขั้นตอนที่ 3: หักค่าลดหย่อน

หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว ยังสามารถหักค่าลดหย่อนต่างๆ ได้ เช่น

  • ค่าลดหย่อนส่วนตัว: 60,000 บาท (30,000 บาทถ้ายื่นกลางปี)
  • เบี้ยประกันชีวิต / ประกันสุขภาพ
  • ลดหย่อนคู่สมรส / บุตร
  • เงินสมทบประกันสังคม / กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

ขั้นตอนที่ 4: คำนวณภาษีจากเงินได้สุทธิ

เมื่อได้ยอด เงินได้สุทธิ ให้นำไปคิดภาษีตามอัตราก้าวหน้า ดังนี้:

เงินได้สุทธิ (บาท) อัตราภาษี
0 – 150,000 ยกเว้น
150,001 – 300,000 5%
300,001 – 500,000 10%
500,001 – 750,000 15%
750,001 – 1,000,000 20%
1,000,001 – 2,000,000 25%
2,000,001 – 5,000,000 30%
5,000,001 ขึ้นไป 35%

ยูทูปเบอร์เสียภาษียังไง

 

ตัวอย่าง 1: Youtuber ยื่นปลายปี (ภ.ง.ด.90)

  • รายได้รวมจาก AdSense และสปอนเซอร์ตลอดปี = 1,200,000 บาท
  • หักค่าใช้จ่ายแบบเหมา 60% = 720,000 บาท
  • เงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย = 480,000 บาท
  • หักลดหย่อนส่วนตัว = 60,000 บาท
  • เงินได้สุทธิ = 420,000 บาท

คำนวณภาษี:

  • 150,000 แรก: ยกเว้น
  • 150,001–300,000 → 150,000 × 5% = 7,500 บาท
  • 300,001–420,000 → 120,000 × 10% = 12,000 บาท
    รวมภาษีที่ต้องจ่าย = 19,500 บาท

ตัวอย่าง 2: Youtuber ยื่นกลางปี (ภ.ง.ด.94)

  • รายได้จาก YouTube ช่วง ม.ค.–มิ.ย. = 600,000 บาท
  • หักค่าใช้จ่ายแบบเหมา 60% = 360,000 บาท
  • เงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย = 240,000 บาท
  • หักลดหย่อนครึ่งปี = 30,000 บาท
  • เงินได้สุทธิ = 210,000 บาท

คำนวณภาษี:

  • 150,000 แรก: ยกเว้น
  • 150,001–210,000 → 60,000 × 5% = 3,000 บาท
    รวมภาษีกลางปีที่ต้องจ่าย = 3,000 บาท

หมายเหตุเพิ่มเติมสำหรับ Youtuber

  • รายได้จาก YouTube ถือเป็นรายได้จากอาชีพอิสระ ตามมาตรา 40(8)
  • หากรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ควรจด VAT (ภ.พ.20)
  • หากมีรายได้ต่อเนื่องและมีค่าใช้จ่ายสูง อาจพิจารณาจดทะเบียนบริษัทเพื่อลดภาษี

 

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับ Youtuber

ยูทูปเบอร์เสียภาษียังไง?

ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) คือภาษีทางอ้อมที่ผู้ประกอบการต้องเรียกเก็บจากลูกค้าและนำส่งให้กับกรมสรรพากร โดยทั่วไปผู้ที่มีรายได้จากการขายสินค้า หรือให้บริการเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี จะต้องเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม

สำหรับ Youtuber / Influencer ถือว่า “ให้บริการ” เช่น:

  • รับจ้างผลิตวิดีโอ รีวิวสินค้า หรือคลิปโฆษณา
  • รับงานโปรโมตสินค้าใน YouTube หรือช่องทางอื่น
  • มีรายได้จากสปอนเซอร์ภายในประเทศ

หากรายได้รวมจากบริการเหล่านี้ เกิน 1.8 ล้านบาทภายในปีเดียวกัน (ไม่ต้องรอครบ 12 เดือน) คุณมีหน้าที่ต้อง จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

 

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 

ยูทูปเบอร์เสียภาษียังไง

สำหรับ Youtuber Influrencer Tiktoker หรือผู้สร้างคอนเทนต์ที่รับงานจากบริษัทหรือองค์กรในประเทศไทย เช่น การรีวิวสินค้า การทำคลิปวิดีโอ หรือการออกงานอีเวนต์ต่างๆ รายได้ที่ได้รับมักจะมีการ หักภาษี ณ ที่จ่าย ก่อนที่จะโอนเงินจริงเข้าบัญชี

อัตราการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ขึ้นอยู่กับลักษณะงาน)

ลักษณะของงานหรือบริการ อัตราภาษีหัก ณ ที่จ่าย
รับจ้างผลิตสื่อ / คลิปวิดีโอ / รีวิวสินค้า 3%
รับเชิญไปอีเวนต์ / พูดในงาน / พิธีกร 5%
บริการอื่นที่เข้าข่ายงานอิสระ (เช่นตัดต่อ, ถ่ายทำ) 3%–5%

เมื่อหักภาษี ณ ที่จ่ายเรียบร้อย บริษัทผู้ว่าจ้างจะออกเอกสาร “หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย” (แบบ ภ.ง.ด. 50 ทวิ) ให้ผู้รับค่าจ้างเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ตัวอย่าง

  • หากได้รับค่าจ้างรีวิวสินค้า 10,000 บาท
  • บริษัทหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% = 300 บาท
  • ผู้รับค่าจ้างจะได้รับเงินสุทธิ = 9,700 บาท
  • และจะได้รับเอกสารรับรองการหักภาษี (50 ทวิ) มาพร้อมกัน

แล้วต้องทำกับภาษีหัก ณ ที่จ่าย

  • ถึงแม้บริษัทจะหักภาษี ณ ที่จ่ายให้แล้ว ผู้รับค่าจ้าง ยังคงมีหน้าที่ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วยตนเอง โดยนำรายได้รวม (10,000 บาท) ไปรวมในแบบ ภ.ง.ด. 90 หรือ 94 ตามรอบการยื่น
  • ภาษีที่ถูกหักไว้ล่วงหน้า (เช่น 300 บาท) สามารถนำไปใช้เป็นเครดิตภาษี เพื่อลดภาษีที่ต้องชำระตอนปลายปีได้
  • กรณีที่ยอดภาษีที่หักไว้เกินกว่าที่คำนวณได้จริง สามารถ ยื่นขอคืนภาษีได้

สรุป ยูทูปเบอร์เสียภาษียังไง

ยูทูปเบอร์ถือเป็นผู้มีรายได้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเหมือนอาชีพทั่วไป โดยสามารถเลือกหักค่าใช้จ่ายแบบเหมา 60% หรือหักตามจริงได้ตามความเหมาะสม และหากรายได้มีความต่อเนื่องสูง ควรจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายอย่างเป็นระบบเพื่อความถูกต้องและง่ายต่อการยื่นภาษี

การทำความเข้าใจเรื่องภาษีและเตรียมพร้อมตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้ยูทูปเบอร์สามารถบริหารรายได้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นรินทร์ทอง สำนักงานบัญชีที่เข้าใจธุรกิจทุกรูปแบบ และพร้อมเดินเคียงข้างคุณทุกขั้นตอน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…

Facebook : NarinthongOfficial

E-mail : narinthong.ac@gmail.com

Line : @Narinthong

Tel : 081-627-6872 02-404-2339

 

 

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ และคุกกี้ในส่วนการตลาด

    คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ จะช่วยให้เว็บไซต์เข้าใจรูปแบบการใช้งานของผู้เข้าชมและจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการใช้งานของผู้ใช้งาน และคุกกี้ในส่วนการตลาด ใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อแสดงโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายและเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการโฆษณาสำหรับผู้เผยแพร่และผู้โฆษณาสำหรับบุคคลที่สาม

บันทึกการตั้งค่า