คำว่า บอจ. เป็นคำย่อจาก “แบบฟอร์มของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า” ที่ใช้ในการจดทะเบียน จัดตั้ง เปลี่ยนแปลง หรือรายงานข้อมูลเกี่ยวกับนิติบุคคล (เช่น บริษัทหรือห้างหุ้นส่วน) มีความสำคัญต่อการทำธุรกิจมาก เพราะเป็น เอกสารทางกฎหมาย ที่ใช้ในการจดทะเบียนและแสดงสถานะของธุรกิจอย่างเป็นทางการ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของบริษัท หรือเป็นคู่ค้ากับบริษัทอื่น “บอจ.” คือเครื่องมือยืนยันตัวตนและความน่าเชื่อถือของธุรกิจนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี แต่อย่างที่รู้กันดีว่า บอจ. มีหลายประเภท สำหรับใครที่สงสัยว่า บอจ 2 3 4 5 คือ อะไร? ศึกษาข้อมูลเหล่านี้ไปพร้อมๆ กันกับเรา นรินทร์ทอง
บอจ. 2 คืออะไร
บอจ. 2 คือ “หนังสือบริคณห์สนธิ” เป็นเอกสารที่ผู้เริ่มก่อการของบริษัทได้จัดทำขึ้นและลงลายมือชื่อ ตามข้อกำหนดกฎหมายในการจัดตั้งบริษัท โดยมีรายละเอียดสำคัญคือ
- ชื่อของบริษัททั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ
- จังหวัดที่ตั้งของบริษัท
- วัตถุประสงค์ของบริษัท
- รายละเอียดทุนของบริษัท
- รายละเอียดและลายเซ็นของผู้เริ่มก่อการ ที่เข้าชื่อร่วมกัน
สำคัญอย่างไร
- ใช้เป็นหลักฐานทางกฎหมาย ที่ยืนยันว่าบริษัทมีตัวตนจริง
- ใช้คู่กับ บอจ. 3, บอจ. 5 และ บอจ. 7 ในการยื่นงานทางธุรกิจหรือขอสินเชื่อ
- ใช้ยืนยันกับคู่ค้า, หน่วยงานราชการ หรือธนาคาร
ใช้ตอนไหน
จะถูกใช้ในหลายกรณีสำคัญหลังจากที่บริษัท จดทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) เช่น
- ใช้หลังจดทะเบียนบริษัทเสร็จ – เป็นเอกสารที่ DBD ออกให้หลังจากจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทสำเร็จ ใช้เพื่อยืนยันว่าบริษัทมีสถานะถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
- ใช้ในการเปิดบัญชีธนาคารในนามบริษัท – ธนาคารจะขอเอกสาร บอจ. 2 (พร้อมกับ บอจ.3, บอจ.5, บอจ.7) เพื่อยืนยันสถานะของบริษัท
- ใช้แนบเอกสารในการยื่นขอสินเชื่อธุรกิจ -เป็นหลักฐานประกอบการยื่นกู้เงินกับธนาคารหรือสถาบันการเงินในนามบริษัท
- ใช้ในการทำสัญญาทางธุรกิจ – เช่น ทำสัญญากับคู่ค้า, เช่าพื้นที่, รับงานก่อสร้าง ฯลฯ
- ใช้ในการยื่นงานราชการหรือประมูลงาน – เช่น ยื่นซองประกวดราคากับหน่วยงานรัฐ (เอกสารรับรองบริษัทเป็นข้อบังคับ)
มีเนื้อหาอะไร
- ชื่อบริษัท
- ทุนจดทะเบียน
- ที่ตั้งบริษัท
- รายชื่อกรรมการ
- วัตถุประสงค์บริษัท
บอจ. 3 คืออะไร
บอจ. 3 คือ “รายการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัด” เป็นเอกสารที่จัดทำโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) เพื่อแสดงรายละเอียดการจดทะเบียนของบริษัทแบบเป็นทางการ โดยมีรายละเอียดที่สำคัญ คือ
- จำนวนหุ้นทั้งสิ้นของบริษัท
- จำนวนหุ้นสามัญ และจำนวนหุ้นบุริมสิทธิของบริษัท
- จำนวนเงินที่ได้ใช้แล้วในแต่ละหุ้น แบ่งเป็นจำนวนเงินที่ใช้แล้วของแต่ละหุ้นสามัญ และจำนวนเงินที่ใช้แล้วของแต่ละหุ้นบุริมสิทธิ
- จำนวนเงินที่บริษัทได้รับค่าหุ้นรวมทั้งสิ้น แบ่งเป็น จำนวนเงินรวมที่ได้รับของหุ้นสามัญ และจำนวนเงินรวมที่ได้รับของหุ้นบุริมสิทธิ
- จำนวนหรือชื่อกรรมการ ผู้ที่ลงลายมือชื่อผูกพันบริษัท
สำคัญอย่างไร
- ใช้เพื่อยืนยันสถานะบริษัท
- ใช้เปิดบัญชีธนาคารในนามบริษัท
- ใช้ประกอบเอกสารทางธุรกิจ
- ใช้ยื่นต่อหน่วยงานราชการ
ใช้ตอนไหน
ใช้ในหลายกรณีสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการแสดงตัวตนและสถานะของบริษัทต่อหน่วยงานภายนอก โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นธุรกิจและการทำธุรกรรมต่างๆ เช่น
- เปิดบัญชีธนาคารในนามบริษัท – ธนาคารจะขอเอกสาร บอจ. 3 เพื่อดูข้อมูลบริษัท เช่น ทุนจดทะเบียน กรรมการผู้มีอำนาจ และที่ตั้งบริษัท
- ทำสัญญากับคู่ค้า – ใช้แสดงความน่าเชื่อถือและยืนยันสถานะของบริษัท เมื่อทำธุรกิจร่วมกับบริษัทอื่น
- ยื่นประมูลงานราชการหรือเอกชน – ใช้เป็นหลักฐานแสดงตัวตนบริษัท ต่อหน่วยงานที่จัดซื้อจัดจ้าง
- ยื่นภาษีหรือเปิดแฟ้มภาษี (กับสรรพากร) – ใช้ในการลงทะเบียนผู้เสียภาษีนิติบุคคล พร้อมกับ บอจ. 2, บอจ. 5 และ บอจ. 7
- ขอใบอนุญาตหรือจดทะเบียนกิจการ – เช่น ขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจ, ใบอนุญาตก่อสร้าง, ใบอนุญาตร้านอาหาร ฯลฯ
- ยื่นขอสินเชื่อธุรกิจ – สถาบันการเงินใช้ บอจ. 3 ในการพิจารณาข้อมูลบริษัทก่อนอนุมัติวงเงิน
มีเนื้อหาอะไร
- ชื่อบริษัท
- เลขทะเบียนนิติบุคคล
- วันที่จดทะเบียน
- ทุนจดทะเบียน
- วัตถุประสงค์ของบริษัท
- ที่ตั้งสำนักงานใหญ่
- รายชื่อกรรมการ
- อำนาจกรรมการ
- จำนวนหุ้น
- ชื่อผู้ถือหุ้น (บางกรณี)
บอจ. 4 คืออะไร
บอจ. 4 คือ “รายละเอียดการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท” ที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเพื่อเติมหลังจากการจัดตั้งบริษัทเสร็จแล้ว โดยจะมีรายละเอียดที่สำคัญ คือ
- รายละเอียดที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม
สำคัญอย่างไร
- ใช้เป็นขั้นตอนเริ่มต้นก่อนจดทะเบียนบริษัท
- ใช้แสดงข้อมูลพื้นฐานของบริษัท
- ใช้ยืนยันเจตนาร่วมก่อตั้งของผู้ก่อการ
- เป็นเอกสารทางกฎหมายที่อ้างอิงได้ภายหลัง
ใช้ตอนไหน
- ใช้ก่อนจดทะเบียนบริษัท เป็นขั้นตอนแรกในการเริ่มก่อตั้งบริษัท
- ต้องยื่น บอจ. 4 ภายใน 30 วันหลังจากจองชื่อบริษัทผ่านระบบ DBD
มีเนื้อหาอะไร
- ชื่อบริษัท
- วัตถุประสงค์ของบริษัท
- ทุนจดทะเบียน
- สำนักงานใหญ่
- รายชื่อผู้ก่อการ
- ลายเซ็นผู้ก่อการ
บอจ. 5 คืออะไร
บอจ.5 คือ “สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น” เป็นแบบที่แสดงให้เห็นว่าในบริษัทนี้ มีใครเป็นผู้ถือหุ้นอยู่บ้าง รายละเอียดที่สำคัญมีดังต่อไปนี้
- ชื่อ เลขทะเบียน ของบริษัท
- รายละเอียดที่แสดงว่า บอจ.5 นี้เป็นทะเบียนของผู้ถือหุ้น ณ วันไหน เช่น ณ วันที่ประชุมจัดตั้งบริษัท ณ วันที่คัดจากสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น
- มูลค่าทุนจดทะเบียน จำนวนหุ้น และมูลค่าราคาพาร์ของหุ้น
- จำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมด
- รายละเอียดของผู้ถือหุ้นแต่ละคน โดยมีรายละเอียด ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชน สัญชาติ อาชีพ ที่อยู่ จำนวนหุ้นที่ถือ และชำระแล้วหุ้นละกี่บาท เลขหมายหุ้น และวันที่ลงทะเบียนเป็นผู้ถือหุ้น เป็นต้น
สำคัญอย่างไร
- เป็นหลักฐานทางราชการยืนยัน “ที่อยู่บริษัท”
- ใช้ในกระบวนการทางธุรกิจ
- ใช้แจ้งการเปลี่ยนแปลงที่ตั้งสำนักงานใหญ่
- มีผลต่อการเสียภาษี
ใช้ตอนไหน
- จดทะเบียนตั้งบริษัท
- เปิดบัญชีธนาคารในนามบริษัท
- ขอใบอนุญาตต่าง ๆ กับหน่วยงานรัฐ
- ทำสัญญาทางธุรกิจ / ประมูลงาน
- ขอยื่นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
มีเนื้อหาอะไร
- ชื่อบริษัท
- เลขทะเบียนนิติบุคคล
- ที่ตั้งสำนักงานใหญ่
- ทุนจดทะเบียน
- รายชื่อกรรมการ
- วัตถุประสงค์ของบริษัท
- วันที่จดทะเบียน / แก้ไข
ตารางสรุปความแตกต่างระหว่าง บอจ. 2 3 4 5
จากเนื้อหาในหัวข้อข้างต้น หลายๆ คนคงเข้าใจแล้วว่า บอจ 2 3 4 5 คือ อะไร มีความสำคัญอย่างไรบ้าง แต่ในหัวข้อนี้ นรินทร์ทอง จะมาสรุปว่าระหว่าง บอจ. 2, 3, 4 และ 5 มีความแตกต่างกันอย่างไร? โดยเราได้ทำตารางเปรียบเทียบระหว่าง บอจ. 2, 3, 4 และ 5 เอาไว้ดังนี้
ตารางเปรียบเทียบ บอจ. 2 / 3 / 4 / 5
แบบฟอร์ม | ชื่อเต็ม | ใช้เมื่อไหร่ | เนื้อหาสำคัญ | ความสำคัญ |
---|---|---|---|---|
บอจ. 2 | รายชื่อผู้ถือหุ้น | เมื่อมีการจดทะเบียนหรือเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น | รายชื่อผู้ถือหุ้น, จำนวนหุ้น, สัญชาติ | ใช้ยืนยันโครงสร้างผู้ถือหุ้น |
บอจ. 3 | รายชื่อกรรมการ | เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการ | ชื่อ-สกุลกรรมการ, อำนาจกรรมการ | ใช้ยืนยันอำนาจผู้บริหาร |
บอจ. 4 | หนังสือบริคณห์สนธิ | ก่อนจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท | ชื่อบริษัท, วัตถุประสงค์, ทุน, ผู้ก่อการ | แสดงเจตนาก่อตั้งบริษัท |
บอจ. 5 | หนังสือรับรอง | หลังจดทะเบียนแล้ว หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง | ข้อมูลรวม: ชื่อบริษัท, ทุน, กรรมการ, ที่ตั้ง ฯลฯ | ใช้ยืนยันสถานะบริษัทในทางกฎหมาย |
จะเห็นว่า บอจ. แต่ละรูปแบบมีหน้าที่แตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์ แต่ทั้ง 3 รูปแบบต่างก็เป็นเอกสารสำคัญที่ทางบริษัทนั้น จำเป็นต้องจัดทำขึ้นตอนจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท และมักจะเป็นเอกสารที่ต้องเอาไปใช้ทำรายการธุรกรรมต่างๆ ที่สำคัญของบริษัท เช่น การเปิดบัญชีธนาคาร เป็นต้น
นรินทร์ทอง ให้บริการยื่น แบบ บอจ. พร้อมดูแลต่อเนื่องหลังยื่นจดทะเบียน
การใช้สำนักงานบัญชีเหมือนมีมืออาชีพช่วยวางโครงสร้างธุรกิจให้มั่นคง ถูกกฎหมาย และไม่เสียเวลา หากคุณกำลังวางแผนจะจัดตั้งบริษัท แต่ไม่แน่ใจว่าจะต้องยื่นแบบไหนก่อน บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด เรายินดีให้คำปรึกษา นอกจากนี้เรายังให้บริการ รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
- การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
- รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
- งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
- ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339