บอจ 2 3 4 5 คือ อะไร

ทำความรู้จัก บอจ 2 3 4 5 คือ อะไร

คำว่า บอจ. เป็นคำย่อจาก “แบบฟอร์มของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า” ที่ใช้ในการจดทะเบียน จัดตั้ง เปลี่ยนแปลง หรือรายงานข้อมูลเกี่ยวกับนิติบุคคล (เช่น บริษัทหรือห้างหุ้นส่วน) มีความสำคัญต่อการทำธุรกิจมาก เพราะเป็น เอกสารทางกฎหมาย ที่ใช้ในการจดทะเบียนและแสดงสถานะของธุรกิจอย่างเป็นทางการ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของบริษัท หรือเป็นคู่ค้ากับบริษัทอื่น “บอจ.” คือเครื่องมือยืนยันตัวตนและความน่าเชื่อถือของธุรกิจนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี แต่อย่างที่รู้กันดีว่า บอจ. มีหลายประเภท สำหรับใครที่สงสัยว่า บอจ 2 3 4 5 คือ อะไร? ศึกษาข้อมูลเหล่านี้ไปพร้อมๆ กันกับเรา นรินทร์ทอง

 

บอจ. 2 คืออะไร

บอจ 2 3 4 5 คือ อะไร

บอจ. 2 คือ “หนังสือบริคณห์สนธิ” เป็นเอกสารที่ผู้เริ่มก่อการของบริษัทได้จัดทำขึ้นและลงลายมือชื่อ ตามข้อกำหนดกฎหมายในการจัดตั้งบริษัท โดยมีรายละเอียดสำคัญคือ

  1. ชื่อของบริษัททั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ
  2. จังหวัดที่ตั้งของบริษัท
  3. วัตถุประสงค์ของบริษัท
  4. รายละเอียดทุนของบริษัท
  5. รายละเอียดและลายเซ็นของผู้เริ่มก่อการ ที่เข้าชื่อร่วมกัน

สำคัญอย่างไร

  • ใช้เป็นหลักฐานทางกฎหมาย ที่ยืนยันว่าบริษัทมีตัวตนจริง
  • ใช้คู่กับ บอจ. 3, บอจ. 5 และ บอจ. 7 ในการยื่นงานทางธุรกิจหรือขอสินเชื่อ
  • ใช้ยืนยันกับคู่ค้า, หน่วยงานราชการ หรือธนาคาร

 

ใช้ตอนไหน

จะถูกใช้ในหลายกรณีสำคัญหลังจากที่บริษัท จดทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) เช่น

  • ใช้หลังจดทะเบียนบริษัทเสร็จ – เป็นเอกสารที่ DBD ออกให้หลังจากจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทสำเร็จ ใช้เพื่อยืนยันว่าบริษัทมีสถานะถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
  • ใช้ในการเปิดบัญชีธนาคารในนามบริษัท – ธนาคารจะขอเอกสาร บอจ. 2 (พร้อมกับ บอจ.3, บอจ.5, บอจ.7) เพื่อยืนยันสถานะของบริษัท
  • ใช้แนบเอกสารในการยื่นขอสินเชื่อธุรกิจ -เป็นหลักฐานประกอบการยื่นกู้เงินกับธนาคารหรือสถาบันการเงินในนามบริษัท
  • ใช้ในการทำสัญญาทางธุรกิจ – เช่น ทำสัญญากับคู่ค้า, เช่าพื้นที่, รับงานก่อสร้าง ฯลฯ
  • ใช้ในการยื่นงานราชการหรือประมูลงาน – เช่น ยื่นซองประกวดราคากับหน่วยงานรัฐ (เอกสารรับรองบริษัทเป็นข้อบังคับ)

มีเนื้อหาอะไร

  1. ชื่อบริษัท
  2. ทุนจดทะเบียน
  3. ที่ตั้งบริษัท
  4. รายชื่อกรรมการ
  5. วัตถุประสงค์บริษัท

 

บอจ. 3 คืออะไร

บอจ 2 3 4 5 คือ อะไร

บอจ. 3 คือ “รายการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัด” เป็นเอกสารที่จัดทำโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) เพื่อแสดงรายละเอียดการจดทะเบียนของบริษัทแบบเป็นทางการ โดยมีรายละเอียดที่สำคัญ คือ

  1. จำนวนหุ้นทั้งสิ้นของบริษัท
  2. จำนวนหุ้นสามัญ และจำนวนหุ้นบุริมสิทธิของบริษัท
  3. จำนวนเงินที่ได้ใช้แล้วในแต่ละหุ้น แบ่งเป็นจำนวนเงินที่ใช้แล้วของแต่ละหุ้นสามัญ และจำนวนเงินที่ใช้แล้วของแต่ละหุ้นบุริมสิทธิ
  4. จำนวนเงินที่บริษัทได้รับค่าหุ้นรวมทั้งสิ้น แบ่งเป็น จำนวนเงินรวมที่ได้รับของหุ้นสามัญ และจำนวนเงินรวมที่ได้รับของหุ้นบุริมสิทธิ
  5. จำนวนหรือชื่อกรรมการ ผู้ที่ลงลายมือชื่อผูกพันบริษัท

สำคัญอย่างไร

  • ใช้เพื่อยืนยันสถานะบริษัท
  • ใช้เปิดบัญชีธนาคารในนามบริษัท
  • ใช้ประกอบเอกสารทางธุรกิจ
  • ใช้ยื่นต่อหน่วยงานราชการ

ใช้ตอนไหน 

ใช้ในหลายกรณีสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการแสดงตัวตนและสถานะของบริษัทต่อหน่วยงานภายนอก โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นธุรกิจและการทำธุรกรรมต่างๆ เช่น

  • เปิดบัญชีธนาคารในนามบริษัท – ธนาคารจะขอเอกสาร บอจ. 3 เพื่อดูข้อมูลบริษัท เช่น ทุนจดทะเบียน กรรมการผู้มีอำนาจ และที่ตั้งบริษัท
  • ทำสัญญากับคู่ค้า – ใช้แสดงความน่าเชื่อถือและยืนยันสถานะของบริษัท เมื่อทำธุรกิจร่วมกับบริษัทอื่น
  • ยื่นประมูลงานราชการหรือเอกชน – ใช้เป็นหลักฐานแสดงตัวตนบริษัท ต่อหน่วยงานที่จัดซื้อจัดจ้าง
  • ยื่นภาษีหรือเปิดแฟ้มภาษี (กับสรรพากร) – ใช้ในการลงทะเบียนผู้เสียภาษีนิติบุคคล พร้อมกับ บอจ. 2, บอจ. 5 และ บอจ. 7
  • ขอใบอนุญาตหรือจดทะเบียนกิจการ – เช่น ขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจ, ใบอนุญาตก่อสร้าง, ใบอนุญาตร้านอาหาร ฯลฯ
  • ยื่นขอสินเชื่อธุรกิจ – สถาบันการเงินใช้ บอจ. 3 ในการพิจารณาข้อมูลบริษัทก่อนอนุมัติวงเงิน

มีเนื้อหาอะไร

  1. ชื่อบริษัท
  2. เลขทะเบียนนิติบุคคล
  3. วันที่จดทะเบียน
  4. ทุนจดทะเบียน
  5. วัตถุประสงค์ของบริษัท
  6. ที่ตั้งสำนักงานใหญ่
  7. รายชื่อกรรมการ
  8. อำนาจกรรมการ
  9. จำนวนหุ้น
  10. ชื่อผู้ถือหุ้น (บางกรณี)

 

บอจ. 4 คืออะไร

บอจ 2 3 4 5 คือ อะไร

บอจ. 4 คือ “รายละเอียดการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท” ที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเพื่อเติมหลังจากการจัดตั้งบริษัทเสร็จแล้ว โดยจะมีรายละเอียดที่สำคัญ คือ

  1. รายละเอียดที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม

สำคัญอย่างไร

  • ใช้เป็นขั้นตอนเริ่มต้นก่อนจดทะเบียนบริษัท
  • ใช้แสดงข้อมูลพื้นฐานของบริษัท
  • ใช้ยืนยันเจตนาร่วมก่อตั้งของผู้ก่อการ
  • เป็นเอกสารทางกฎหมายที่อ้างอิงได้ภายหลัง

ใช้ตอนไหน

  • ใช้ก่อนจดทะเบียนบริษัท เป็นขั้นตอนแรกในการเริ่มก่อตั้งบริษัท
  • ต้องยื่น บอจ. 4 ภายใน 30 วันหลังจากจองชื่อบริษัทผ่านระบบ DBD

มีเนื้อหาอะไร

  1. ชื่อบริษัท
  2. วัตถุประสงค์ของบริษัท
  3. ทุนจดทะเบียน
  4. สำนักงานใหญ่
  5. รายชื่อผู้ก่อการ
  6. ลายเซ็นผู้ก่อการ

 

บอจ. 5 คืออะไร

บอจ 2 3 4 5 คือ อะไร

บอจ.5 คือ “สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น” เป็นแบบที่แสดงให้เห็นว่าในบริษัทนี้ มีใครเป็นผู้ถือหุ้นอยู่บ้าง รายละเอียดที่สำคัญมีดังต่อไปนี้

  1. ชื่อ เลขทะเบียน ของบริษัท
  2. รายละเอียดที่แสดงว่า บอจ.5 นี้เป็นทะเบียนของผู้ถือหุ้น ณ วันไหน เช่น ณ วันที่ประชุมจัดตั้งบริษัท ณ วันที่คัดจากสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น
  3. มูลค่าทุนจดทะเบียน จำนวนหุ้น และมูลค่าราคาพาร์ของหุ้น
  4. จำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมด
  5. รายละเอียดของผู้ถือหุ้นแต่ละคน โดยมีรายละเอียด ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชน สัญชาติ อาชีพ ที่อยู่ จำนวนหุ้นที่ถือ และชำระแล้วหุ้นละกี่บาท เลขหมายหุ้น และวันที่ลงทะเบียนเป็นผู้ถือหุ้น เป็นต้น

สำคัญอย่างไร

  • เป็นหลักฐานทางราชการยืนยัน “ที่อยู่บริษัท”
  • ใช้ในกระบวนการทางธุรกิจ
  • ใช้แจ้งการเปลี่ยนแปลงที่ตั้งสำนักงานใหญ่
  • มีผลต่อการเสียภาษี

ใช้ตอนไหน 

  • จดทะเบียนตั้งบริษัท
  • เปิดบัญชีธนาคารในนามบริษัท
  • ขอใบอนุญาตต่าง ๆ กับหน่วยงานรัฐ
  • ทำสัญญาทางธุรกิจ / ประมูลงาน
  • ขอยื่นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

มีเนื้อหาอะไร

  1. ชื่อบริษัท
  2. เลขทะเบียนนิติบุคคล
  3. ที่ตั้งสำนักงานใหญ่
  4. ทุนจดทะเบียน
  5. รายชื่อกรรมการ
  6. วัตถุประสงค์ของบริษัท
  7. วันที่จดทะเบียน / แก้ไข

 

ตารางสรุปความแตกต่างระหว่าง บอจ. 2 3 4 5

บอจ 2 3 4 5 คือ อะไร

จากเนื้อหาในหัวข้อข้างต้น หลายๆ คนคงเข้าใจแล้วว่า บอจ 2 3 4 5 คือ อะไร มีความสำคัญอย่างไรบ้าง แต่ในหัวข้อนี้ นรินทร์ทอง จะมาสรุปว่าระหว่าง บอจ. 2, 3, 4 และ 5 มีความแตกต่างกันอย่างไร? โดยเราได้ทำตารางเปรียบเทียบระหว่าง บอจ. 2, 3, 4 และ 5 เอาไว้ดังนี้

 ตารางเปรียบเทียบ บอจ. 2 / 3 / 4 / 5

แบบฟอร์ม ชื่อเต็ม ใช้เมื่อไหร่ เนื้อหาสำคัญ ความสำคัญ
บอจ. 2 รายชื่อผู้ถือหุ้น เมื่อมีการจดทะเบียนหรือเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น รายชื่อผู้ถือหุ้น, จำนวนหุ้น, สัญชาติ ใช้ยืนยันโครงสร้างผู้ถือหุ้น
บอจ. 3 รายชื่อกรรมการ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการ ชื่อ-สกุลกรรมการ, อำนาจกรรมการ ใช้ยืนยันอำนาจผู้บริหาร
บอจ. 4 หนังสือบริคณห์สนธิ ก่อนจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ชื่อบริษัท, วัตถุประสงค์, ทุน, ผู้ก่อการ แสดงเจตนาก่อตั้งบริษัท
บอจ. 5 หนังสือรับรอง หลังจดทะเบียนแล้ว หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ข้อมูลรวม: ชื่อบริษัท, ทุน, กรรมการ, ที่ตั้ง ฯลฯ ใช้ยืนยันสถานะบริษัทในทางกฎหมาย

จะเห็นว่า บอจ. แต่ละรูปแบบมีหน้าที่แตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์ แต่ทั้ง 3 รูปแบบต่างก็เป็นเอกสารสำคัญที่ทางบริษัทนั้น จำเป็นต้องจัดทำขึ้นตอนจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท และมักจะเป็นเอกสารที่ต้องเอาไปใช้ทำรายการธุรกรรมต่างๆ ที่สำคัญของบริษัท เช่น การเปิดบัญชีธนาคาร เป็นต้น

 

 

นรินทร์ทอง ให้บริการยื่น แบบ บอจ. พร้อมดูแลต่อเนื่องหลังยื่นจดทะเบียน

การใช้สำนักงานบัญชีเหมือนมีมืออาชีพช่วยวางโครงสร้างธุรกิจให้มั่นคง ถูกกฎหมาย และไม่เสียเวลา หากคุณกำลังวางแผนจะจัดตั้งบริษัท แต่ไม่แน่ใจว่าจะต้องยื่นแบบไหนก่อน บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด เรายินดีให้คำปรึกษา นอกจากนี้เรายังให้บริการ รับทำบัญชี และจัดทำงบการเงิน โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและภาษี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…

Facebook : NarinthongOfficial

E-mail : narinthong.ac@gmail.com

Line : @Narinthong

Tel : 081-627-6872 02-404-2339

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ และคุกกี้ในส่วนการตลาด

    คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ จะช่วยให้เว็บไซต์เข้าใจรูปแบบการใช้งานของผู้เข้าชมและจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการใช้งานของผู้ใช้งาน และคุกกี้ในส่วนการตลาด ใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อแสดงโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายและเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการโฆษณาสำหรับผู้เผยแพร่และผู้โฆษณาสำหรับบุคคลที่สาม

บันทึกการตั้งค่า