หนึ่งในหน้าที่สำคัญของเจ้าของบริษัทคือ “การปิดงบการเงิน” หรือที่หลายคนเรียกว่า “การปิดงบประจำปี” ซึ่งเป็นกระบวนการรวบรวมข้อมูลทางบัญชีทั้งหมดในรอบปี ทั้งรายได้ ค่าใช้จ่าย ทรัพย์สิน หนี้สิน รวมถึงกำไรหรือขาดทุนของบริษัท เพื่อรายงานผลประกอบการต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) และกรมสรรพากร แต่คำถามที่ผู้ประกอบการมักสงสัยคือ — “ปิดงบบริษัทเดือนไหน ดีที่สุด?” เพราะหากกำหนดรอบบัญชีไม่เหมาะสม หรือไม่ปิดงบตามกำหนดเวลา อาจกระทบต่อการบริหารภาษี รวมถึงเสี่ยงโดนปรับตามกฎหมาย
ปิดงบบริษัทเดือนไหน ถึงจะเหมาะกับธุรกิจของคุณ
โดยทั่วไป “รอบบัญชี” หรือ “รอบงบการเงิน” ของบริษัท คือช่วงเวลา 12 เดือนที่ใช้บันทึกและสรุปผลการดำเนินงาน ซึ่งสามารถเลือกได้ตั้งแต่วันแรกของการเริ่มกิจการ โดยไม่จำเป็นต้องตรงกับปีปฏิทิน
รอบบัญชีที่คนนิยมใช้มากที่สุด
บริษัทส่วนใหญ่ในประเทศไทยมักเลือก รอบบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม ของทุกปี เพราะเป็นช่วงเดียวกับปีภาษี ทำให้การยื่นแบบภาษีต่าง ๆ เช่น ภ.ง.ด.50 หรือภ.ง.ด.51 เป็นไปได้อย่างสะดวก ไม่ซับซ้อน และยังง่ายต่อการวิเคราะห์ผลประกอบการในแต่ละปี
นอกจากนี้ การใช้รอบบัญชีแบบปีปฏิทินยังช่วยให้บริษัทเปรียบเทียบงบการเงินกับธุรกิจอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกันได้ง่าย เพราะส่วนใหญ่ใช้รอบเดียวกัน
เลือกรอบอื่นได้ไหม?
บริษัทสามารถกำหนดรอบบัญชีที่แตกต่างจากปีปฏิทินได้สิ่งสำคัญคือ ต้องใช้รอบบัญชีเดียวกันทุกปี หากต้องการเปลี่ยน ต้องยื่นขออนุมัติจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เปิดบริษัทใหม่ ต้องเลือกปิดงบเดือนไหนดี?
เมื่อเปิดบริษัทใหม่ สิ่งที่เจ้าของธุรกิจหลายคนมักสงสัยคือ “ต้องปิดงบการเงินเดือนไหน?” หรือ “ต้องเริ่มนับรอบบัญชีจากวันจดทะเบียนไหม?”
คำตอบคือ — สามารถกำหนดรอบบัญชีเองได้ โดยกฎหมายกำหนดให้รอบบัญชีแต่ละรอบมีระยะเวลา ไม่เกิน 12 เดือน และต้องใช้วันสิ้นรอบบัญชีเดิมในทุกปี
ตัวอย่างกรณีที่ 1: ปิดงบวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี
กรณีนี้เป็น รอบบัญชีตามปฏิทิน (Calendar Year) ที่นิยมใช้กันมากที่สุด เพราะสอดคล้องกับรอบภาษีของกรมสรรพากร
เช่น
- หากบริษัทจดทะเบียนวันที่ 15 มิถุนายน 2568
→ สามารถกำหนดรอบบัญชีแรกเป็น 15 มิถุนายน – 31 ธันวาคม 2568
(รอบแรกประมาณ 6 เดือนครึ่ง) - จากนั้น รอบถัดไปจะเป็น 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2569 เป็นต้นไป
เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้รอบบัญชีตรงกับปีภาษีปกติ และสะดวกต่อการยื่นงบการเงินและภาษีประจำปี
ตัวอย่างกรณีที่ 2: เลือกรอบบัญชีนอกรอบปฏิทิน
เจ้าของธุรกิจสามารถกำหนดรอบบัญชีที่ ไม่ตรงกับปีปฏิทิน ได้เช่นกัน
โดยให้มีระยะเวลาไม่เกิน 12 เดือน และต้องระบุไว้ตั้งแต่ขั้นตอนจดทะเบียนบริษัท
เช่น
- บริษัทจดทะเบียนวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568
→ สามารถเลือกได้ 2 แบบ- รอบบัญชี 1 พฤศจิกายน 2568 – 31 ธันวาคม 2568 (ปิดตามปฏิทิน)
- รอบบัญชี 1 พฤศจิกายน 2568 – 31 ตุลาคม 2569 (รอบเต็มปีแบบนอกรอบปฏิทิน)
แบบที่สองจะได้งบการเงินครบ 12 เดือนเต็มในปีแรก และเป็นรอบบัญชีถาวรสำหรับปีต่อ ๆ ไป
เลือกปิดงบบริษัทเดือนไหน ให้เหมาะกับภาระค่าใช้จ่าย
หากจดทะเบียนช่วงปลายปี เช่น ตุลาคม – ธันวาคม แล้วเลือกปิดงบ 31 ธันวาคมทันที
อาจต้องจ้างสอบบัญชีและจัดทำงบการเงินภายในไม่กี่เดือน ซึ่งเพิ่มค่าใช้จ่าย
ดังนั้น ผู้ประกอบการบางรายจึงเลือก เลื่อนรอบบัญชีให้สิ้นสุดกลางปี เช่น 30 มิถุนายน
เพื่อให้รอบแรกยาวเต็มปีและช่วยประหยัด ค่าปิดงบและค่าสอบบัญชี
นอกจากนี้ การ วางแผนจดจัดตั้งบริษัทให้สัมพันธ์กับรอบบัญชี ยังช่วยให้ควบคุมต้นทุนด้านบัญชีได้ดียิ่งขึ้น เช่น
- หากตั้งใจเริ่มดำเนินธุรกิจจริงในช่วงต้นปี อาจเลือกจดทะเบียนในเดือนมกราคม – มีนาคม เพื่อให้รอบบัญชีตรงกับปีปฏิทิน
- แต่หากเปิดช่วงกลางหรือปลายปี ควรวางแผนให้รอบบัญชีแรกยาวเต็ม 12 เดือน เพื่อเลี่ยงค่าใช้จ่ายงบสั้น
การวางแผนตั้งแต่ก่อน จดทะเบียนบริษัท จะช่วยให้การจัดทำบัญชีและภาษีของบริษัทมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดความซ้ำซ้อนของค่าใช้จ่ายในปีแรก
หากไม่ปิดงบตามรอบ มีบทลงโทษทางกฎหมาย
หลายบริษัทมักละเลยการยื่นงบการเงิน โดยเฉพาะกิจการที่ยังไม่มีรายได้หรือไม่ค่อยเคลื่อนไหว ซึ่งอาจคิดว่าไม่จำเป็นต้องปิดงบ แต่ตามกฎหมายแล้ว บริษัททุกแห่งต้องยื่นงบการเงินประจำปีภายใน 150 วันหลังสิ้นรอบบัญชี
หากไม่ดำเนินการภายในกำหนดเวลา จะมีโทษดังนี้
- ปรับบริษัทไม่เกิน 50,000 บาท
- ปรับกรรมการบริษัทไม่เกิน 50,000 บาท
- บริษัทอาจถูก ระบุสถานะเป็น “ร้าง” หรือ “ขาดการยื่นงบ” ในระบบกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ซึ่งส่งผลต่อความน่าเชื่อถือของบริษัทในสายตาคู่ค้าและสถาบันการเงิน
- และในบางกรณี หากละเลยต่อเนื่อง อาจถูก สั่งเพิกถอนนิติบุคคล ได้ในที่สุด
ดังนั้น การปิดงบให้ตรงเวลาไม่เพียงแต่ช่วยให้บริษัททำงานถูกต้องตามกฎหมาย แต่ยังเป็นการแสดงถึงความโปร่งใสและความพร้อมขององค์กรในสายตาของนักลงทุนและคู่ค้า
ปิดงบบริษัทเดือนไหน ดีที่สุด
สรุปคือ ไม่มีคำตอบตายตัวว่าควร “ปิดงบบริษัทเดือนไหน” เพราะขึ้นอยู่กับลักษณะของธุรกิจและการวางแผนภาษี แต่สำหรับบริษัททั่วไป การใช้รอบบัญชี 1 มกราคม – 31 ธันวาคม จะสะดวกและเป็นมาตรฐานที่สุด
หากคุณเป็นเจ้าของกิจการที่กำลังวางแผนรอบบัญชี หรืออยากให้มีผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบและปิดงบให้ถูกต้องครบถ้วนตามกฎหมายปรึกษา
นรินทร์ทอง ผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชีและภาษีที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี เราพร้อมเป็นเกราะป้องกันทางกฎหมายให้ธุรกิจคุณ เราไม่เพียงแค่ช่วย คำนวณและจัดการการปิดงบย้อนหลังที่ซับซ้อน แต่เรายังมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
- การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
- รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
- งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
- ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339