บัญชีคลินิกทันตกรรม

บัญชีคลินิกทันตกรรม สำหรับคลินิกเปิดใหม่!

หากคุณอยากทำธุรกิจเปิดร้านคลินิกทันตกรรมขึ้นมาสักแห่ง การวางแผนทำการตลาด รวมถึงการจัดทำบัญชีที่มีประสิทธิภาพก็สำคัญไม่น้อย เนื่องจากมีคลินิกทันตกรรมปัจจุบันเกิดขึ้นมากมาย ดังนั้นการมีหน้าร้านอย่างเดียวคงไม่พอ แต่การจัดการภายในร้านต้องมีระบบระเบียบด้วย ดังนั้นเจ้าของคลินิกทันตกรรมทั้งหลาย ที่สนใจอยากเปิดคลินิกทันตกรรมเป็นของตัวเอง อย่าลืมทำความเข้าใจธุรกิจในสายนี้ และวางแผนวิธีการจัดทำ บัญชีคลินิกทันตกรรม ให้ดีก่อนเปิดกิจการ ซึ่งวันนี้ นรินทร์ทอง ได้นำวิธีการวางแผนทำบัญชีคลินิกทันตกรรม มาแชร์ให้ทุกคนในบทความนี้ สำหรับคลินิกเปิดใหม่ที่ต้องรู้ ห้ามพลาดเลย!

 

การวางแผนทำ บัญชีคลินิกทันตกรรม

บัญชีคลินิกทันตกรรม

การวางแผนทำบัญชีคลินิกทันตกรรมให้ดีก่อนเปิดให้บริการ เป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้การบริหารคลินิกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการทำบัญชีสำหรับคลินิกทันตกรรมนั้น มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากธุรกิจทั่วไป แต่ก็สามารถทำความเข้าใจได้ง่ายๆ ด้วยรายละเอียดเหล่านี้

  1. กำหนดผังบัญชี (Chart of Accounts) – ด้วยการจัดหมวดหมู่รายรับ-รายจ่ายให้ชัดเจน เพื่อให้ง่ายต่อการบันทึกและตรวจสอบ ซึ่งผังบัญชีที่ควรมีสำหรับคลินิกทันตกรรม ได้แก่
    • ต้นทุนสินค้าและบริการ (Cost of Goods Sold – COGS): คือค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการให้บริการรักษาแต่ละเคส
    • ค่าใช้จ่าย (Expenses): คือค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการรักษา แต่จำเป็นต่อการเปิดให้บริการ
    • รายได้ (Revenue): รายได้ของคลินิกทันตกรรมที่มาจากการให้บริการและขายสินค้า
  2. บันทึกรายรับ-รายจ่าย อย่างสม่ำเสมอ – คือการบันทึกข้อมูลอย่างครบถ้วนและสม่ำเสมอ เพื่อให้ข้อมูลมีความถูกต้องและเป็นปัจจุบัน
    • บันทึกรายรับ: ทุกครั้งที่ลูกค้าชำระค่าบริการ ควรออกใบเสร็จรับเงินหรือใบแจ้งหนี้ และบันทึกข้อมูลการขายในระบบทันที พร้อมระบุประเภทการรักษาและช่องทางการชำระเงิน
    • บันทึกรายจ่าย: ทุกครั้งที่มีการจ่ายเงิน ให้เก็บใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีไว้เป็นหลักฐาน และบันทึกรายการในสมุดบัญชีรายจ่าย โดยแยกประเภทให้ชัดเจนว่าเป็นการซื้อวัตถุดิบ, ค่าใช้จ่ายประจำ, หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ
    • การจัดการสต็อก: ควรมีการบันทึกการซื้อวัตถุดิบเข้า-ออก และการใช้ไปในแต่ละเคสการรักษา เพื่อให้ทราบต้นทุนที่แท้จริงและบริหารจัดการสต็อกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  3. จัทำรายงานทางการเงิน – เพื่อใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจทางธุรกิจ
    • งบกำไรขาดทุน (Income Statement): รายงานนี้จะแสดงผลประกอบการของคลินิกในช่วงเวลาหนึ่ง (เช่น รายเดือน, รายไตรมาส) โดยจะสรุปรายได้ทั้งหมด หักด้วยต้นทุนและค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพื่อให้เห็นว่าคลินิกมีกำไรหรือขาดทุนเท่าไหร่
    • งบกระแสเงินสด (Cash Flow Statement): ช่วยให้คุณเห็นการเคลื่อนไหวของเงินสดเข้า-ออกในคลินิก ทำให้รู้ว่ามีเงินสดเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายที่กำลังจะมาถึงหรือไม่
  4. การจัดการภาษี – คลินิกทันตกรรมต้องมีการจัดการภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
    • ภาษีเงินได้: ต้องยื่นภาษีเงินได้ตามรูปแบบการจดทะเบียน (บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล)
    • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย: กรณีที่มีการจ้างทันตแพทย์อิสระ (แพทย์ฟรีแลนซ์) ควรมีการหัก ณ ที่จ่าย 3% และนำส่งกรมสรรพากรให้ถูกต้อง
    • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT): หากคลินิกมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

 

โครงสร้างธุรกิจบัญชีคลินิกทันตกรรม

บัญชีคลินิกทันตกรรม

ในหัวข้อนี้ นรินทร์ทอง จะมาเจาะลึกรายละเอียดเกี่ยวกับ “โครงสร้างบัญชีสำหรับคลินิกทันตกรรม” ซึ่งมีรายละเอียดที่สำคัญ 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ ต้นทุน, ค่าใช้จ่าย และรายได้ เพื่อให้เจ้าของคลินิกสามารถเห็นภาพรวมทางการเงินอย่างชัดเจน โดยมีดังนี้

  1. ต้นทุนของบัญชีคลินิกทันตกรรม – คือ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการให้บริการรักษาแต่ละเคส ซึ่งเป็นต้นทุนที่ผันแปรตามจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับบริการ ตัวอย่างเช่น
    • ค่าวัสดุและอุปกรณ์ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโดยตรง: เช่น วัสดุอุดฟัน, วัสดุพิมพ์ฟัน, ฟันปลอม, เครื่องมือทันตกรรมที่ใช้แล้วทิ้ง
    • ค่าใช้จ่ายทางห้องปฏิบัติการ (Dental Lab): เช่น ค่าทำฟันปลอม, ครอบฟัน, สะพานฟัน, รีเทนเนอร์, เครื่องมือจัดฟันต่างๆ ที่ต้องส่งไปให้แล็บ
    • ค่าคอมมิชชั่นทันตแพทย์: ในกรณีที่คลินิกจ่ายค่าตอบแทนให้ทันตแพทย์เป็นรายเคส (Fee for Service) หรือตามเปอร์เซ็นต์ของรายได้ค่ารักษา
  2. ค่าใช้จ่ายบัญชีคลินิกทันตกรรม – คือค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการรักษา แต่จำเป็นต่อการเปิดให้บริการ ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
    • ค่าใช้จ่ายคงที่: คือค่าใช้จ่ายที่ไม่ผันแปรตามจำนวนผู้ป่วย ได้แก่ ค่าเช่าสถานที่, เงินเดือนพนักงานประจำ, ค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์, ค่าประกันภัย
    • ค่าใช้จ่ายผันแปร: คือค่าใช้จ่ายที่ผันแปรตามจำนวนผู้ป่วย หรือกิจกรรมทางการตลาด ได้แก่ ค่าคอมมิชชั่นทันตแพทย์/พนักงาน, ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าการตลาด, ค่าซ่อมบำรุง, ค่าวัสดุสำนักงาน
  3. รายได้ของบัญชีคลินิกทันตกรรม – มาจากการให้บริการและขายสินค้า ซึ่งควรมีการแยกประเภทรายได้ให้ชัดเจน เพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์
    • รายได้ค่ารักษาทางทันตกรรม: แยกตามประเภท เช่น อุดฟัน, ถอนฟัน, จัดฟัน, ทำฟันปลอม, ขูดหินปูน, รักษาโรคเหงือก
    • รายได้จากการขายสินค้า: ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับช่องปาก เช่น แปรงสีฟัน, ไหมขัดฟัน, น้ำยาบ้วนปาก
    • รายได้อื่นๆ: เช่น ค่าที่ปรึกษา, ค่าธรรมเนียม, รายได้จากการให้เช่าพื้นที่ (ถ้ามี), ดอกเบี้ยรับจากการฝากเงิน

 

การเก็บเอกสาร

คลินิกทันตกรรมที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล กฎหมายได้มีการกำหนดว่าต้องจัดทำบัญชีจากนักบัญชี และตรวจสอบบัญชีจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาต รวมถึงส่งรายงานการเงินและภาษีให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามเวลากำหนด โดยเอกสารต่างๆ สามารถจัดเก็บตามหมวดหมู่ได้ดังนี้

บัญชีคลินิกทันตกรรม

1. หมวด “ข้อมูลกิจการ” ซึ่งประกอบไปด้วย

  • หนังสือรับรองการจดทะเบียน และเอกสารการจดทะเบียนบริษัท
  • งบการเงินของปีก่อน
  • ภ.ง.ด.50 / ภ.ง.ด.51 ของปีก่อน
  • ภ.พ.01 , ภ.พ.09 , ภ.พ.20
  • สัญญาต่างๆ

บัญชีคลินิกทันตกรรม

2. หมวด “เอกสารขาย” ซึ่งประกอบไปด้วย

  • ใบสำคัญรับเงิน Receipt Voucher
  • สำเนาใบเสร็จรับเงิน
  • สำเนาใบแจ้งหนี้ / ใบส่งของ / ใบกำกับภาษีขาย
  • สำเนาใบลดหนี้ขาย กรณีราคาผิด คืนสินค้า
  • หลักฐานการรับชำระเงิน สำเนาเช็ครับ สลิปการโอน
  • ธุรกิจบริการ สำเนาหนังสือหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)
  • อื่นๆ เช่น ใบสั่งซื้อ (ถ้ามี)

บัญชีคลินิกทันตกรรม

3. หมวด “เอกสารซื้อ” ซึ่งประกอบไปด้วย

  • ใบสำคัญจ่าย ต้องมีลายเซ็นผู้รับเงิน
  • ใบแจ้งหนี้ / ใบส่งของ / สำเนาใบกำกับภาษี
  • ต้นฉบับใบเสร็จรับเงิน
  • หลักฐานการจ่ายเงิน สลิปโอนเงิน สำเนาเช็ค
  • หนังสือรับรองภาษีหัก ณ ที่จ่าย (50ทวิ)
  • สำเนาบัตรประชาชน (กรณีจ้างบุคคล)
  • ใบรับเงินหรือใบแทนใบเสร็จรับเงิน (กรณีผู้ขายไม่ออกใบเสร็จรับเงิน)
  • อื่นๆ เช่น ใบสั่งซื้อ หนังสือจัดจ้าง (ถ้ามี)

บัญชีคลินิกทันตกรรม

4. หมวด “ภาษีขาย” ซึ่งประกอบไปด้วย

  • สำเนาใบกำกับภาษีขาย
  • รายงานภาษีขาย

บัญชีคลินิกทันตกรรม

5. หมวด “ภาษีซื้อ” ซึ่งประกอบด้วย

  • ต้นฉบับใบกำกับภาษีซื้อ
  • รายงานภาษีซื้อ

บัญชีคลินิกทันตกรรม

6. หมวด “ภาษีถูกหัก ณ ที่จ่าย” เมื่อมีผู้เข้ารับบริการในคลินิกโดยใช้สิทธิ์ประกันสังคม ทางคลินิกจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 1% ประกันสังคมจะจ่ายค่าบริการให้แก่คลินิก พร้อมให้ต้นฉบับกับสำเนาหนังสือภาษีหัก ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) ซึ่งประกอบไปด้วย

  • ต้นฉบับเก็บแฟ้มภาษีหัก ณ ที่จ่าย
  • สำเนาชุดใบสำคัญรับชำระหนี้

บัญชีคลินิกทันตกรรม

7. หมวด “งานภาษี (Tax File)” ซึ่งประกอบไปด้วย

  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย เช่น ภ.ง.ด.1 ภ.ง.ด.3 ภ.ง.ด.53
  • สำหรับคลินิกทันตกรรมที่จดทะเบียน VAT ต้องเก็บ ภ.พ.30
  • รายงานภาษีซื้อและรายงานภาษีขาย ภ.ง.ด.50 และ ภ.ง.ด.51 ของปีปัจจุบัน
  • ประกันสังคมและกองทุนทดแทนต่างๆ

บัญชีคลินิกทันตกรรม

8. หมวด “เงินเดือนและประกันสังคม” ซึ่งประกอบไปด้วย

  • แบบยื่นภาษี ภ.ง.ด.1
  • แบบนำส่งเงินสมทบประกันสังคม (สปส.1-10)
  • ตารางสรุปการจ่ายเงินเดือน

บัญชีคลินิกทันตกรรม

9. หมวด “ทะเบียนสินทรัพย์” สินทรัพย์จะต้องมีอายุการใช้งานเกิน 1 ปี และมีมูลค่าขั้นต่ำ 1,000 บาทขึ้นไป หรือตามนโยบายของคลินิก ซึ่งประกอบไปด้วย

  • เอกสารการซื้อ ใบเสร็จรับเงิน หรือใบกำกับภาษี
  • ทะเบียนทรัพย์สิน

 

ตัวอย่างการบันทึกบัญชี ในแต่ละเคสที่น่าสนใจ

บัญชีคลินิกทันตกรรม

วิธีคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับคลินิกทันตกรรม

การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะคิดจาก “เงินได้สุทธิ” ซึ่งก็คือเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนต่างๆ แล้ว ยกตัวอย่างเช่น รายได้คลินิกต่อปี 5,000,000 บาท

  • ค่าใช้จ่าย: ธุรกิจคลินิกจัดอยู่ในกลุ่มเงินได้ประเภทที่ 8 สามารถเลือกหักค่าใช้จ่ายได้ 2 แบบ
    1. หักแบบเหมา 60%: ค่าใช้จ่าย = บาท
    2. หักตามจริง: ต้องมีหลักฐานค่าใช้จ่ายทั้งหมด
  • ค่าลดหย่อน: เช่น ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท, ค่าประกันชีวิต, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (อาจมีหรือไม่มีก็ได้)
  • ตัวอย่างการคำนวณ (สมมติหักค่าใช้จ่ายแบบเหมา 60% และมีค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท)

เงินได้สุทธิ=5,000,000−3,000,000−60,000=1,940,000 บาท

เมื่อนำเงินได้สุทธิ 1,940,000 บาท มาคำนวณตาม อัตราภาษีแบบขั้นบันได จะได้ยอดภาษีที่ต้องจ่าย (1,940,000−1,000,000)×25% = 235,000 เมื่อนำรวมภาษีที่ต้องจ่ายในแต่ละขั้นจะได้ 350,000 บาท  (ภาษีที่ต้องเสีย)

บัญชีคลินิกทันตกรรม

วิธีคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับคลินิกทันตกรรม

การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล จะคำนวณจากกำไรสุทธิทางภาษีของบริษัท โดยมีวิธีการคำนวณภาษีคือ (รายได้ – ค่าใช้จ่าย) = กำไรสุทธิ ยกตัวอย่างเช่น รายได้คลินิกต่อปี 5,000,000 บาท

  • ค่าใช้จ่าย: สมมติว่ามีค่าใช้จ่ายตามจริง 3,000,000 บาท
  • กำไรสุทธิทางบัญชี: 5,000,000−3,000,000=2,000,000 บาท
  • ตัวอย่างการคำนวณ: เมื่อนำกำไรสุทธิ 2,000,000 บาท มาคำนวณตามอัตราภาษีของ SME จะได้ยอดภาษีที่ต้องจ่ายดังนี้

( = 255,000

(ประหยัดกว่าประเภทกิจการแบบบุคคลธรรมดา 350,000 – 255,000 เท่ากับ 95,000 บาท)

จะเห็นว่าภาษีบุคคลธรรมดา จะมียอดต้องชำระมากกว่าภาษีรูปแบบกิจการที่เป็นนิติบุคคล หากใครสนใจอยากทำธุรกิจรูปแบบนี้ แนะนำว่าให้เลือกรูปแบบธุรกิจเป็นแบบนิติบุคคลจะสามารถประหยัดภาษีได้มากกว่า แต่ไม่ว่าจะทำธุรกิจรูปแบบไหน ก็ต้องให้ความสำคัญกับระบบการจัดการคลินิก และเรื่องบัญชีภาษีที่ต้องทำอย่างละเอียดมาก เนื่องจากมีรายได้สูงและมาจากหลายช่องทาง อาจทำให้ทันตแพทย์หรือเจ้าของคลินิกมีโอกาสผิดพลาดได้ง่าย

 

 

จัดทำ บัญชีคลินิกทันตกรรม อย่างมืออาชีพ ป้องกันปัญหาภาษีในอนาคต เลือก นรินทร์ทอง!

อันที่จริงแล้วการจัดทำ บัญชีคลินิกทันตกรรม ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด หากคุณเริ่มต้นจากการวางแผนและบันทึกข้อมูลอย่างเป็นระบบ จะช่วยให้คุณบริหารคลินิกได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพในระยะยาว ขอแนะนำ นรินทร์ทอง เป็นที่ปรึกษาด้านการทำบัญชี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…

Facebook : NarinthongOfficial

E-mail : narinthong.ac@gmail.com

Line : @Narinthong

Tel : 081-627-6872 02-404-2339

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ และคุกกี้ในส่วนการตลาด

    คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ จะช่วยให้เว็บไซต์เข้าใจรูปแบบการใช้งานของผู้เข้าชมและจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการใช้งานของผู้ใช้งาน และคุกกี้ในส่วนการตลาด ใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อแสดงโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายและเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการโฆษณาสำหรับผู้เผยแพร่และผู้โฆษณาสำหรับบุคคลที่สาม

บันทึกการตั้งค่า