“การทำบัญชีบริษัทมีอะไรบ้าง?” มักจะเป็นคำถามยอดนิยมสำหรับผู้ประกอบการหรือบุคคลที่กำลังเป็นเจ้าของธุรกิจมือใหม่ เพราะความสำคัญของการทำบัญชีจะเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพในการดำเนินกิจการ ที่ช่วยให้เราได้เห็นถึงผลประกอบการ ว่าธุรกิจที่กำลังดำเนินอยู่นั้นมีกำไรขาดทุนเท่าไหร่ จะได้ควบคุมการเงินให้อยู่ในงบประมาณที่กำหนด และสามารถแก้ไขได้ตรงจุดหากการเงินมีปัญหา
สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร และการจัดเก็บข้อมูลแบบไหนที่เป็นประโยชน์ต่อการทำบัญชี วันนี้ นรินทร์ทอง ขอแนะนำวิธีการทำบัญชีบริษัทแบบเบื้องต้น ที่ผู้ประกอบการมือใหม่จะต้องรู้ เพื่อช่วยให้การดำเนินธุรกิจของคุณผ่านไปได้ด้วยดี ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านบทความนี้กันเลย!
การทำบัญชีบริษัทมีอะไรบ้าง ที่คุณควรรู้?
สิ่งที่เกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจจะมีเรื่องของการลงทุน, รายรับ และรายจ่าย การทำบัญชีบริษัทจึงเป็นตัวช่วยที่ทำให้เราได้ทราบถึง ‘สถานะทางการเงิน’ ที่ได้ผลกำไรหรือขาดทุนเท่าไหร่ เพื่อให้คุณสามารถนำไปประเมินธุรกิจในอนาคตได้
เงินที่เข้า – ออกภายในบริษัท
ผู้ประกอบการที่เพิ่งดำเนินธุรกิจจะพลาดไม่ได้เลยกับ ‘รายการเดินบัญชี’ ที่เป็นตัวช่วยให้คุณได้ทราบว่ามีเงินเข้า – เงินออกภายในบริษัทเป็นจำนวนเท่าไหร่ และถ้าหากว่าบริษัทของคุณมีบัญชีธนาคารมากกว่า 1 บัญชี ก็จะต้องเตรียมข้อมูลที่มีรายการเดินบัญชีของทุกธนาคาร ควบคู่กับเอกสารที่ได้รับเงินหรือจ่ายเงิน เพื่อให้เราได้รู้ที่มาที่ไปของเงินจำนวนนั้น
การรับเงิน
เงินเข้าหรือรายได้ของบริษัท จะมีเงินที่ได้จากการขายสินค้า บริการจากลูกค้าโดยตรง ที่มีการเรียกเก็บเงิน และลูกค้าก็ได้มีการชำระค่าใช้จ่าย จนกลายเป็นเงินที่เข้าบริษัทของเรา โดยเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการรับเงินจะมีดังนี้
- ใบวางบิล/ใบแจ้งหนี้
- ใบกำกับภาษี/ใบเสร็จ
- ใบรับรองการหัก ณ ที่จ่าย
การจ่ายเงิน
เงินออกหรือรายจ่ายของบริษัท จะเป็นเงินที่บริษัทมีการชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ ‘ค่าใช้จ่ายในการขาย’ เป็นเงินที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน เช่น ซื้อสินค้าเอาไว้สำหรับการผลิตเป็นสินค้าที่ซื้อมาขายไป
ในส่วน ‘ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน’ ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่นอกเหนือจากการสั่งซื้อสินค้ามาเพื่อขาย เช่น ค่าเช่า ค่าน้ำมัน และเงินเดือนพนักงานเป็นต้น จึงมีเอกสารที่แตกต่างกันดังนี้
- ค่าใช้จ่ายในการขาย : ใบแจ้งหนี้, ใบกำกับภาษี, ใบรับสินค้า และใบเสร็จรับเงินจากซัพพลายเออร์
- ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน : ใบแจ้งหนี้, ใบเสร็จรับเงินจากซัพพลายเออร์, ใบรับรองการหัก ณ ที่จ่าย รายงานสรุปเงินเดือน (มีรายละเอียดของ เงินที่เพิ่มหรือลด, ประกันสังคม และหัก ณ ที่จ่าย)
เรื่องที่เกี่ยวข้องกับภาษี
ภาษี เป็นเครื่องมือเอาไว้สำหรับเรียกเก็บเงินหรือรายได้จากประชาชน เพื่อนำไปจัดการกับระบบเศรษฐกิจ ทำให้ประเทศมีความเจริญมากยิ่งขึ้น โดยการเก็บภาษีจะมีอยู่ 2 รูปแบบ คือ ‘ภาษีทางตรง’ ที่มีการเรียกเก็บจากบุคคลมีรายได้จากการทำงาน และเจ้าของที่ประกอบกิจการทางการค้าสินค้าหรือบริการ กับ ‘ภาษีทางอ้อม’ หรือภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นการเก็บเงินในกรณีที่บุคคลทั่วไปมีการซื้อสินค้าหรือบริการ
จึงทำให้มีการเสียภาษีทั้งหมด 3 ประเภทที่ผู้ประกอบการมือใหม่ควรรู้ เพราะภาษีเหล่านี้จะเกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือกิจการของคุณโดยตรง
ภาษีเงินได้ ถือว่าเป็นภาษีทางตรงที่มีโอกาสเรียกเก็บจากบุคคลที่เป็นลูกจ้างพนักงาน และบุคคลที่เป็นเจ้าของธุรกิจหรือกิจการ โดยมีการแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
- ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะเอาไว้สำหรับเรียกเก็บภาษีจากบุคคลทั่วไป ที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งวิธีในการคำนวณภาษีจะเป็นการสรุปยอดภายในสิ้นปี เพื่อให้บุคคลทั่วไปทำการยื่น ภ.ง.ด.90 และ ภ.ง.ด. 91 ภายในปีหน้าไม่เกินเดือนมีนาคม
การหักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการ เพราะบุคคลที่เป็นเจ้าของธุรกิจย่อมมีการจัดทำเงินเดือนให้กับพนักงาน จึงต้องรู้วิธีในการคำนวณภาษี และจัดทำเอกสาร เช่น ภ.ง.ด.1 , ภ.ง.ด.1 ก - ภาษีเงินได้นิติบุคคล จะมีหน้าที่ในการเรียกเก็บภาษีจากนิติบุคคล ที่มีการจดทะเบียนเพื่อประกอบธุรกิจเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด, บริษัทจำกัด และอื่นๆ
โดยการยื่นเสียภาษีภายในปีจะมี 2 รอบ คือ ภ.ง.ด.51 จะยื่นเสียภาษีครึ่งปีแรกไม่เกินเดือนสิงหาคม โดยใช้แบบ ภ.ง.ด.50 เป็นการเสียภาษีแบบเต็มปี ที่ต้องยื่นไม่เกินเดือนพฤษภาคมของปีต่อไป
ภาษีหัก ณ ที่จ่าย จะมีผู้หักเป็นบริษัทหรือนิติบุคคล ที่หักจากผู้รับเงิน (บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล) โดยเป็นการหักเงินล่วงหน้าที่ทยอยเสียภาษีทีละนิด ตามแต่ละครั้งที่ได้รับเงิน และอัตราหรือเปอร์เซ็นต์ในการเสียภาษีจะแตกต่างกันออกไป เพราะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของประเภทเงินได้ ซึ่งเอกสารที่ต้องทำการส่งให้กับทางสรรพากรจะถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบเช่นกัน คือ
- บุคคลธรรมดา เป็นการจ่ายเงินให้กับบุคคลทั่วไป จึงทำให้มีเอกสารที่เราต้องเตรียมนำส่งให้กับรัฐ คือ ภ.ง.ด.3, ภ.ง.ด.1 และภ.ง.ด.1 ก
- นิติบุคคล เป็นการจ่ายเงินให้กับทางบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดที่มีการจดทะเบียน จึงต้องมีการจัดเตรียมทำเอกสาร ภ.ง.ด.53
การทำภาษีหัก ณ ที่จ่าย ไม่ว่าเราโดนหักหรือเราหักจากลูกค้า ก็สามารถทำเรื่องเพื่อขอเงินคืนจากรัฐในตอนสิ้นปีหรือนำไปลดหย่อนภาษี โดยต้องทำการยื่น ‘หนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย’
>>อ่านบทความ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย คืออะไร เพิ่มเติมได้ที่นี่<<
ภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นการเรียกเก็บภาษีแบบทางอ้อม มีอีกชื่อเรียกหนึ่งที่ใครหลายคนรู้จักกัน คือ ‘VAT’ ที่มีอัตราในการเรียกเก็บอยู่ 7% ซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ ‘ภาษีขาย’ จะเรียกเก็บจากราคาของสินค้าหรือบริการจากทางลูกค้า และ ‘ภาษีซื้อ’ ตอนที่เราไปซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ขายแล้วมีการคิด VAT
ถือว่าเป็นภาษีที่เก็บจากสินค้าหรือบริการที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้น จนทำให้ธุรกิจมีรายได้ต่อปีมากกว่า 1.8 ล้านบาท และเมื่อไหร่ที่รายได้เกินผู้ประกอบการจะต้องรีบทำการจดทะเบียนภายในระยะเวลา 30 วัน (วันแรกที่นับคือวันที่มีรายได้เกิน) เพราะถ้าหากสรรพากรมาตรวจสอบแล้วพบว่า ธุรกิจของคุณอยู่ในข่ายที่ต้องจดทะเบียนแต่ไม่ได้จด มีสิทธิที่จะได้รับโทษตามกฎหมาย
โดยต้องใช้แบบ ภ.พ.30 เพื่อช่วยรายงานกับทางสรรพากรว่า ธุรกิจที่เรากำลังดำเนินอยู่นั้น มีรายรับ – รายได้ของภาษีมูลค่าเพิ่มเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าธุรกิจของเราจะไม่ได้มีการเคลื่อนไหวในบัญชีเลยก็ต้องนำส่ง (หากยื่นออนไลน์จะเพิ่มระยะเวลาให้อีก 8 วัน)
>>สามารถอ่านบทความ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้ที่นี่<<
ทำไมผู้ประกอบการถึงต้องมีการทำบัญชี?
การทำบัญชีบริษัทสำหรับผู้ประกอบการ นอกจากทำให้ทราบว่าธุรกิจของเราได้กำไรหรือขาดทุน เพื่อนำไปพัฒนากับการดำเนินธุรกิจได้ถูกจุด ยังมีเรื่องของการเสียภาษีของแต่ละประเภทที่ผู้ประกอบการควรรู้ เพราะเอกสารที่ต้องทำการยื่นให้กับทางกรมสรรพากรจะมีเรื่องของกฎหมายมาเกี่ยวข้อง หากเราส่งแบบช้า ละเลย หลีกเลี่ยง จะต้องเสียเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนด แต่ถ้าจงใจไม่ยอมชำระค่าภาษีจะถูกดำเนินคดีทางอาญา
สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกว่า การทำภาษีบริษัทมีรายละเอียดและมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก จนกังวลว่าจะพลาดลืมทำแบบเพื่อยื่น แนะนำให้ติดต่อบริษัทที่ให้บริการดูแลทางด้านบัญชีอย่างครบวงจรกับ นรินทร์ทอง
หากรู้สึกว่าการทำบัญชีเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก นรินทร์ทองช่วยคุณได้!
บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชี และภาษี รวมไปถึงการจดทะเบียนนิติบุคคล ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบ บริษัท หรือห้างหุ้นส่วน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น
- การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
- รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
- รับทำเงินเดือนพนักงาน มีการคำนวณเงินเดือนพนักงานอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันปัญหาที่ทำให้พนักงานได้รับเงินเดือนช้า หรือไม่ครบตามที่กำหนด
- ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
นรินทร์ทองอยากให้ธุรกิจของคุณพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด
และรู้ทุกการเคลื่อนไหวทางการเงิน เพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
ใครมีข้อสงสัย ต้องการคำปรึกษา นรินทร์ทอง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339