ผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เมื่อถึงวันที่กิจการต้องปิดตัวลง ไม่ว่าจะเพราะล้มละลาย ผลประกอบการขาดทุน ผู้ถือหุ้นมีมติเลิก หรือแม้กระทั่งคำสั่งศาล สิ่งที่ต้องทำคือการ จดเลิกบริษัท ไม่ใช่แค่หยุดกิจการเฉย ๆ เพราะหากไม่แจ้งตามกฎหมาย อาจถูกเรียกเก็บภาษี ค่าธรรมเนียมรายปี หรือค่าปรับย้อนหลังได้
เพื่อปิดกิจการอย่างสมบูรณ์ วันนี้ นรินทร์ทอง จะมาอธิบายให้เข้าใจว่า ขั้นตอนการจดเลิกบริษัทต้องทำอย่างไร และต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง
ทำความเข้าใจภาพรวมการจดเลิกบริษัท
ก่อนที่จะเจาะลึกเรื่องเอกสารและขั้นตอนต่าง ๆ ผู้ประกอบการควรทำความเข้าใจ ภาพรวมของกระบวนการจดเลิกบริษัท ก่อน เพื่อให้เห็นลำดับขั้นตอนหลักและเข้าใจหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้เกี่ยวข้อง
- ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อลงมติเลิกบริษัท
- ผู้ถือหุ้นต้องมีมติพิเศษไม่น้อยกว่า ¾ ของจำนวนหุ้นที่เข้าประชุม
- มีการประกาศแจ้งเลิกกิจการในหนังสือพิมพ์
- แต่งตั้งผู้ชำระบัญชี (Liquidator)
- ผู้ชำระบัญชีทำหน้าที่เคลียร์ทรัพย์สินและหนี้สินของบริษัท
- แจ้งแต่งตั้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
- จัดทำงบการเงินวันเลิกกิจการ
- ต้องมีผู้สอบบัญชีรับรอง
- ยื่นงบต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมสรรพากร
- กระบวนการชำระบัญชี
- จัดการทรัพย์สินและหนี้สินของบริษัท
- แจกจ่ายส่วนที่เหลือให้ผู้ถือหุ้นตามสัดส่วน
- ยื่นจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี
- ยื่นเอกสารปิดบริษัทต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
- ได้หนังสือรับรองการเลิกบริษัทและสิ้นสภาพอย่างสมบูรณ์
ขั้นตอนการจดเลิกบริษัท พร้อมเอกสารที่ต้องใช้
ขั้นที่ 1: นัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อเลิกบริษัท
ก่อนเลิกบริษัท ผู้ถือหุ้นต้องมีมติอนุมัติการเลิกกิจการ มติจะต้องได้เสียงไม่น้อยกว่า ¾ ของจำนวนหุ้นที่เข้าประชุม เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย การนัดประชุมจึงต้องส่งหนังสือล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วัน และประกาศในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น 1 ครั้ง เพื่อแจ้งเจ้าหนี้และบุคคลที่เกี่ยวข้อง
เอกสารที่ใช้และเหตุผล:
- หนังสือนัดประชุมผู้ถือหุ้น – ใช้เชิญผู้ถือหุ้นและเป็นหลักฐานการนัดหมายล่วงหน้า
- รายงานการประชุม – บันทึกมติเลิกบริษัท และแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีเพื่อดำเนินการต่อ
ขั้นที่ 2: ยื่นจดทะเบียนเลิกบริษัทต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD)
หลังจากประชุมผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นหรือผู้ชำระบัญชีต้องยื่นคำขอจดทะเบียนเลิกบริษัทภายใน 14 วัน เพื่อให้กิจการอยู่ในสถานะถูกต้องตามกฎหมาย ต้องประกาศในหนังสือพิมพ์และแจ้งเจ้าหนี้ (ถ้ามี)
เอกสารที่ใช้และเหตุผล:
- แบบ ลช.1 : คำขอจดทะเบียนเลิก – ใช้ยื่นต่อ DBD เพื่อเริ่มกระบวนการจดเลิก
- แบบ ลช.2 : รายการจดทะเบียนเลิก – แสดงรายการผู้ถือหุ้นและกรรมการที่เกี่ยวข้อง
- หนังสือรับรองนิติบุคคล – ยืนยันสถานะและข้อมูลบริษัท
- รายงานการประชุมผู้ถือหุ้น – ใช้ยืนยันว่ามีมติเลิกบริษัทจริง
- สำเนาคำสั่งศาล – ในกรณีเลิกตามคำสั่งศาล
- หนังสือแต่งตั้งผู้ชำระบัญชี – ระบุผู้มีอำนาจในการดำเนินการชำระบัญชี
ขั้นที่ 3: การชำระบัญชี
การชำระบัญชีเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อเคลียร์ ทรัพย์สินและหนี้สินของบริษัท ผู้ชำระบัญชีต้องจัดทำงบการเงินวันเลิกบริษัท และดำเนินการเรียกเก็บหนี้ จ่ายหนี้ และแจกจ่ายเงินที่เหลือให้ผู้ถือหุ้น
ขั้นตอนสำคัญ:
- ทำงบการเงินวันเลิกบริษัท และให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบความถูกต้อง
- เรียกประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติงบการเงิน
- เคลียร์ทรัพย์สินและหนี้สิน (เรียกเก็บหนี้, ชำระหนี้, จ่ายคืนทุนผู้ถือหุ้น)
- ยื่นรายงานการชำระบัญชีต่อ DBD
เอกสารที่ใช้:
- งบการเงินปิดเลิกกิจการ – แสดงผลรวมทรัพย์สิน หนี้สิน และทุนของบริษัท ณ วันเลิก
- รายงานการประชุมอนุมัติงบการเงิน – ใช้ยืนยันว่าผู้ถือหุ้นเห็นชอบงบและการชำระบัญชี
- รายงานการชำระบัญชี – สรุปการดำเนินการเคลียร์ทรัพย์สินและหนี้สิน
- สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านผู้ชำระบัญชี – ยืนยันตัวตนและสิทธิ์ดำเนินการ
ขั้นที่ 4: ยื่นจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี
เมื่อผู้ถือหุ้นอนุมัติรายงานการชำระบัญชี ผู้ชำระบัญชีต้องยื่นเอกสารต่อ DBD ภายใน 14 วัน หลังจากนั้น DBD จะออกหนังสือรับรองการเสร็จชำระบัญชี → บริษัทจะสิ้นสภาพโดยสมบูรณ์
เอกสารที่ใช้:
- คำขอจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี – ฟอร์มหลักสำหรับยื่นต่อ DBD
- รายงานสรุปการชำระบัญชี – แสดงขั้นตอนการปิดกิจการอย่างครบถ้วน
- หนังสือรับรองการเลิกบริษัท – เอกสารยืนยันว่าบริษัทสิ้นสภาพตามกฎหมาย
ภาษีและประกันสังคมที่ต้องเคลียร์
แม้บริษัทเลิกแล้ว แต่ต้องส่งภาษีและแจ้งประกันสังคมให้ครบถ้วน เพื่อป้องกันการถูกเรียกเก็บย้อนหลัง
ภาษีที่ต้องชำระสำหรับปิดกิจการ:
- ภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ.ง.ด.50) + งบการเงินวันเลิก – ใช้คำนวณภาษีเงินได้ที่ค้างจ่าย
- ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด.3 และ ภ.ง.ด.53) – รายงานการหักภาษีจากพนักงานหรือผู้รับบริการ
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) – ยื่นต่อเนื่องจนกว่าจะได้รับหนังสือขีดชื่อเลขประจำตัวผู้เสียภาษี
- ภาษีธุรกิจเฉพาะ (ภธ.40) – สำหรับธุรกิจที่มีบัญชีดอกเบี้ยหรือสินทรัพย์เฉพาะ
- แบบแจ้งเลิกกิจการประกันสังคม (สปส.6-15) – แจ้งปิดกิจการต่อสำนักงานประกันสังคม
สรุป
การเลิกบริษัทไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีทั้ง ขั้นตอนทางกฎหมาย เอกสารหลายชนิด ภาษีที่ต้องเคลียร์ หากคุณไม่มั่นใจว่าจะดำเนินการถูกต้องหรือไม่ การใช้ผู้เชี่ยวชาญมาดูแลจะช่วยให้หมดกังวล นรินทร์ทอง เป็นที่ปรึกษาด้านการทำบัญชี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
- การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
- รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
- งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
- ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339