เรื่องภาษีของคลินิกทันตกรรม…อย่ามองข้าม เวลาพูดถึงการเปิดคลินิกทันตกรรม เจ้าของหลายคนมักให้ความสำคัญกับคุณภาพบริการ ทำเลดี หรือการตลาดเป็นหลัก ซึ่งก็ถูกต้องแล้ว เพราะสิ่งเหล่านี้มีผลต่อความน่าเชื่อถือ และ จำนวนคนไข้โดยตรง
แต่สิ่งหนึ่งที่มักถูกมองข้ามคือ เรื่องภาษี ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน และถ้าจัดการไม่ถูกต้อง อาจนำไปสู่ ค่าปรับหรือปัญหาทางกฎหมาย โดยไม่รู้ตัว บทความนี้จะพาเจ้าของคลินิกมาเช็กให้ครบว่า
“คลินิกของคุณเสียภาษีอะไรบ้าง?” พร้อมอธิบายภาษีแต่ละประเภท และยกตัวอย่าง ที่คุณควรรู้ไว้
คลินิกทันตกรรม ต้องเสียภาษีอะไรบ้าง?
สำหรับคลินิกทันตกรรมที่จดทะเบียนในรูปแบบบริษัทจำกัด เจ้าของกิจการควรทำความเข้าใจภาษีที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาภายหลัง เช่น การถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังหรือโดนค่าปรับโดยไม่ตั้งใจ ภาษีที่เกี่ยวข้องกับคลินิกทันตกรรม มีหลัก ๆ ดังนี้
1. ภาษีเงินได้นิติบุคคล — ภาษีพื้นฐานที่คลินิกทันตกรรมทุกแห่งต้องรู้
หากคุณเปิดคลินิกทันตกรรมในรูปแบบ บริษัทจำกัด ไม่ว่าจะเป็นคลินิกเล็กหรือใหญ่ มีหมอฟูลไทม์หรือฟรีแลนซ์ก็ตาม
คุณมีหน้าที่ต้อง ยื่นภาษีเงินได้นิติบุคคลปีละ 2 ครั้ง กับกรมสรรพากร ได้แก่
- กลางปี: ยื่นแบบ ภ.ง.ด.51 (ภายในเดือนสิงหาคม)
- สิ้นปี: ยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 (ภายในเดือนพฤษภาคมของปีถัดไป)
ตัวอย่างคลินิกทันตกรรมภงด 51:
คลินิกทันตกรรม จดทะเบียนในรูปแบบบริษัท เปิดให้บริการขูดหินปูน อุดฟัน และฟอกสีฟัน มีทันตแพทย์ประจำ 1 คน และมีผู้ช่วย 2 คน
ในครึ่งปีแรก คลินิกมี:
- รายได้รวม 2,000,000 บาท (จากค่าบริการและขายแปรงสีฟัน)
- ค่าใช้จ่ายรวม 1,300,000 บาท (ค่าเช่า, เงินเดือน, ค่าวัสดุอุปกรณ์, ค่าโฆษณา)
คำนวณได้ว่า:
- กำไรสุทธิ = 2,000,000 – 1,300,000 = 700,000 บาท
- ภาษีที่ต้องชำระกลางปี (ภ.ง.ด.51) = (700,000 – 300,000) × 15% = 60,000 บาท
ภาษีที่ชำระกลางปีนี้ เป็นเพียง “ภาษีประมาณการ” ซึ่งปลายปีจะนำมาหักลบกับยอดจริงที่ยื่นในแบบ ภ.ง.ด.50 ได้
ตัวอย่าง:
คลินิก ทำรอบบัญชี 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2567
- ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2568
- โดยใช้ตัวเลขจริงจาก งบการเงิน ที่ผู้สอบบัญชีรับรองแล้ว เช่น
- รายได้ทั้งปี: 4,200,000 บาท
- ค่าใช้จ่ายรวม: 2,900,000 บาท
- กำไรสุทธิ: 1,300,000 บาท
วิธีคำนวณภาษีสิ้นปี: ภงด 50
ขั้นที่ 1: หักกำไรส่วนที่ได้รับยกเว้น
- กำไร 300,000 บาทแรก ยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี
ขั้นที่ 2: คำนวณภาษีจากส่วนที่เหลือ
- กำไรที่ต้องเสียภาษี = 1,300,000 – 300,000 = 1,000,000 บาท
- ภาษีที่ต้องชำระ = 1,000,000 × 15% = 150,000 บาท
ขั้นที่ 3: หักภาษีที่ชำระไปแล้วตอนยื่น ภ.ง.ด.51
- ถ้าเคยชำระไว้ 60,000 บาท ตอนกลางปี
- ยังต้องจ่ายเพิ่มอีก 90,000 บาท (150,000 – 60,000)
2. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด.3 / ภ.ง.ด.53)
สำหรับคลินิกทันตกรรมที่จ้างงานบุคคลภายนอก เช่น
- ทันตแพทย์อิสระ (ฟรีแลนซ์)
- นักบัญชีรับทำบัญชี
- นักออกแบบเว็บไซต์หรือกราฟิก
- ช่างภาพถ่ายรูปโปรโมตคลินิก
กฎหมายกำหนดให้คลินิกต้อง หักภาษี ณ ที่จ่าย ก่อนจ่ายเงินค่าจ้างหรือค่าบริการเหล่านี้ แล้วนำส่งภาษีให้กรมสรรพากรทุกเดือน ผ่านแบบฟอร์มภาษีที่เกี่ยวข้อง
วิธีการหักภาษี ณ ที่จ่าย
- หักภาษีตามอัตราที่กฎหมายกำหนด เช่น ค่าจ้างทันตแพทย์อิสระ หัก 3% ของยอดจ่ายจริง
- ภาษีที่หักไว้ต้องนำส่งกรมสรรพากร ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป
- ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายให้ผู้ถูกหัก เพื่อใช้ยื่นภาษีเงินได้ของเขาเอง
แบบฟอร์มที่ใช้ยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่าย
ภ.ง.ด.3 รายงานการหักภาษี ณ ที่จ่ายจากค่าจ้าง หรือค่าบริการทั่วไป เช่น ค่าจ้างทันตแพทย์อิสระ นักบัญชี นักออกแบบเว็บไซต์
ภ.ง.ด.53 รายงานการหักภาษี ณ ที่จ่ายจากเงินปันผลที่จ่ายให้ผู้ถือหุ้น หรือรายได้อื่น ๆ ประเภทเงินปันผล
ขั้นตอนการดำเนินการของคลินิกในเดือนถัดไป
- นำเงินภาษี 3,000 บาท ส่งให้กรมสรรพากร ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป
- ยื่นแบบฟอร์ม ภ.ง.ด.3 เพื่อรายงานยอดเงินที่หักภาษี ณ ที่จ่ายนั้น
- ออกหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายให้ทันตแพทย์ เพื่อนำไปใช้ยื่นภาษีเงินได้ของเขา
3. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
ถ้าคลินิกทันตกรรมมีรายได้รวมเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี จะต้อง จดทะเบียน VAT กับกรมสรรพากร และต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม แบบ ภ.พ.30 ทุกเดือน เพื่อรายงานยอดขายและยอดภาษีซื้อ-ขาย
รายได้ของคลินิกทันตกรรมที่ไม่ยกเว้น VAT (ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)
หากคลินิกของคุณ ไม่ได้ให้บริการรักษาพยาบาลโดยตรง หรือมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรักษาโดยตรงทั้งหมด จะถือว่า ไม่มีรายได้ที่ได้รับการยกเว้น VAT และต้อง คิดภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% จากทุกยอดขายหรือค่าบริการ
รายได้ที่ต้องเสีย VAT มีอะไรบ้าง?
กรณีนี้ คลินิกจะต้องคิด VAT 7% จากรายได้ทั้งหมด เช่น:
- การขายสินค้า เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก
- การจำหน่ายวิตามิน อาหารเสริม หรือผลิตภัณฑ์สุขภาพ
- บริการทางทันตกรรมเพื่อความงาม (บางประเภท) เช่น ฟอกสีฟัน จัดฟันแฟชั่น ฯลฯ
- อุปกรณ์ทันตกรรมที่ขายให้กับลูกค้า
ทุกยอดขายต้องออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ และนำยอดมาคำนวณและยื่นใน แบบ ภ.พ.30 ทุกเดือน
ตัวอย่างการคำนวณ VAT
สมมติว่า “คลินิกยิ้มใส” มีรายได้ตลอดปีจากการขายสินค้าและบริการที่ต้องเสีย VAT ดังนี้:
รายการ | จำนวนเงิน (บาท) | VAT 7% |
ขายแปรงสีฟัน | 300,000 | คิด |
ขายวิตามินเสริมสุขภาพ | 200,000 | คิด |
ฟอกสีฟัน | 500,000 | คิด |
ขายอุปกรณ์ทันตกรรมให้ลูกค้า | 400,000 | คิด |
รวมรายได้ = 1,400,000 บาท
VAT ที่ต้องชำระ = 1,400,000 × 7% = 98,000 บาท
ข้อควรระวัง
- หากยอดขายรวมเกิน 1.8 ล้านบาท/ปี ต้อง จดทะเบียน VAT ภายใน 30 วัน
- หากไม่จดทะเบียนตามกำหนด กรมสรรพากรสามารถเรียกเก็บภาษีย้อนหลังพร้อมค่าปรับและดอกเบี้ย
- ต้องออกใบกำกับภาษีและบันทึกบัญชีให้ถูกต้องตามมาตรฐาน
4. ภาษีป้าย
ถ้าคลินิกทันตกรรมของคุณมีการติดตั้ง ป้ายชื่อร้าน เช่น
- ป้ายชื่อคลินิก
- ป้ายโปรโมชั่น
- ป้ายโลโก้หรือสัญลักษณ์
กฎหมายกำหนดให้ต้อง ยื่นภาษีป้าย กับสำนักงานเขต หรือเทศบาลในพื้นที่นั้น ๆ ปีละครั้ง
ตัวอย่างกรณีคลินิกทันตกรรม
คลินิกติดตั้งป้ายชื่อคลินิกขนาดเล็กที่หน้าร้าน
- แม้ป้ายจะมีขนาดเล็กและไม่มีไฟส่องสว่าง แต่ก็ต้องยื่นภาษีป้ายทุกปี
- หากมีป้ายโปรโมชั่นที่ติดตั้งชั่วคราวหรือถาวร ก็อาจต้องยื่นภาษีเพิ่มตามขนาดและประเภทป้าย
อย่ามองข้ามภาษีคลินิกทันตกรรม — ให้มืออาชีพดูแล ดีกว่าเจอปัญหาย้อนหลัง
การจัดการบัญชีและภาษีของคลินิกทันตกรรมไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเมื่อมีทั้งรายได้จากบริการและการจำหน่ายสินค้า หากไม่มีระบบบัญชีที่ถูกต้องและผู้เชี่ยวชาญดูแล อาจเกิดความผิดพลาดที่กระทบต่อธุรกิจในระยะยาว นรินทร์ทอง สำนักงานบัญชีที่เข้าใจธุรกิจทุกรูปแบบ และพร้อมเดินเคียงข้างคุณทุกขั้นตอน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
- การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
- รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
- งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
- ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339